25 พฤษภาคม 2564 1.39 น. สิ้นสุดการรอคอยแล้วครับ ผลตรวจทั้งบ้านออกมาเป็นลบ ไม่มีใครติดเชื้อแล้ว แต่ยังต้องกักตัวไว้หนึ่งคน คือคนที่หายป่วยจากการติดเชื้อเป็นเวลาสิบสี่วัน ต่อไปนี้ก็ได้แต่หาหนทางที่จะทำอย่างไรให้ได้รับการฉีดวัคซีนได้เร็วที่สุด เพราะระแวกนี้ไม่ปลอดภัยแล้วครับ วันก่อนก็มีรถมารับไปอีกรายถัดจากบ้านไม่ไกลเลย และถัดไประมาณร้อยกว่าเมตรในซอยที่ติดกันก็มีแคมป์คนงาน ติดไปหลายรายแล้ว และที่สำคัญ ตลาดสดขนาดใหญ่ที่ชุมชนนี้ไปซื้อหาของสดมาทำกับข้าวขายเกือบทุกเจ้าก็ซื้อที่ตลาดนี้ ได้ปิดไปแล้วเหมือนกัน คิดแล้ววังเวงชอบกล ไม่รู้จะรอดจากการติดเชื้อไปได้อีกนานเท่าไร
วันนี้ก็เป็นเรื่องโควิดที่เกี่ยวข้องกับผมเหมือนเดิม แล้วก็ขอจบเรื่องนี้ไว้แค่นี้ครับ ครั้งต่อไปก็จะกลับมาเข้าเรื่อง โมเดลเรือกันต่อไป
จะท้อแท้หรือไม่แท้ไม่เป็นไรครับ แต่ขอว่า อย่าถอยครับ ก่อนนอนสูดลมหายใจลึกๆ ช้าๆ.........ขอให้ทุกท่านปลอดภัยและแข็งแรงครับ ราตรีสวัสดิ
22 พฤษภาคม 2564 23.44 น. พุ่งนี้ 23 แล้ว ผมกับอีกสองคนในบ้านต้องไปตรวจหาเชื้อรอบสองตามหมอนัด ก็คงต้องออกจากบ้านสัก ตีสี่ ส่วนคนที่ติดเชื้อตอนนี้กลับบ้านแล้วครับมาเมื่อบ่ายนี้เองและหมอก็สั่งให้กักตัวอยู่บ้านสิบสี่วัน.......ก็ยังสงสัยอยู่ว่า พวกผมสามคนที่ไปตรวจรอบสองถ้าไม่ติดเชื้อโควิดนี่ต้องกลับมากักตัวอยู่บ้านพร้อมกันทั้งสี่คนอีกหรือเปล่า เฮ้อ ไม่รู้จะทำไงแล้วครับ ติดหรือไม่ติดมีค่าเท่ากันเลย หรือแย่กว่าตรงที่คนที่ติดเชื้อและหายแล้วเขาก็จะมีภูมิคุ้มกันแล้วอย่างน้อยๆก็หลายเดือน แต่พวกผมสามคนที่ไม่ติดเชื้อก็ต้องมาคอยเสี่ยงกันต่อไป เซ็งจริงๆ เมื่อไหร่วัคซีนจะมาเยอะๆซะที แล้วต่อจากนี้จะทำมาหากินอะไรในช่วงนี้ นี่ก็อีกปัญหาหนึ่งซึ่งใหญ่มากๆตอนนี้ ทุนเก่าก็แทบไม่เหลือแล้ว เบิกไปก็ยังไม่ได้...........
แต่ยังไงก็ต้องสู้ครับ ท้อได้แต่ไม่ถอย ยังไม่ตายสักหน่อย บ่นไปงั้นเองล่ะครับ ถึงเวลามันก็ต้องหาทางไปจนได้ หลายท่านอาจจะแย่กว่าผมก็ได้ บ้านต้องเช่า ข้าวต้องซื้อ งานก็ไม่มี ก็ลองคุยกันดูครับในชุมชนที่ท่านอยู่นั่นแหละครับ คนไทยไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว
คืนนี้ขอให้ทุกท่านปลอดภัย แข็งแรง สู้ต่อไปครับ ราตรีสวัสดิครับ
17 พฤษภาคม 2564 1.57 น. ผ่านไปเจ็ดวันหลังจากตรวจหาเชื้อโควิด ผลออกมาเป็นลบ กลับมากักตัวที่บ้าน ก็ใช้ชิวิตปรกติ เพียงแต่ออกนอกบ้านไม่ได้แม้อยู่ในบ้านก็ใส่หน้ากาก......
ข่าวล่สุวันนี้ จากกลุ่มญาติที่ไปร่วมงานศพด้วยกันเมื่อปลายเดือนที่แล้ว มีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกหนึ่งคหรืออาจจะสองคน เพราะเป็นสามีภรรยาอยู่บ้านเดียวกัน คนนึง ติดแน่ๆ และที่ขำไม่ออกก็คือ คนต้นเหตุที่ป่วยก่อนใครแล้วไม่ยอมบอก แต่กลับมาร่วมงานกันทั้งบ้านนั้น พรุ่งนี้หมอให้กลับบ้านได้แล้ว ผลตรวจไม่พบเชื้อ.....มันน่า #@$%$&%&*^^(*)()&%$^%HJKLJK: จริงๆ
ส่วนผมกับอีกสองคนต้องไปตรวจซ้ำอีกที่ วันที่ 23 พ.ค. นี้ ถ้าผลเป็นลบก็กลับเข้าสู่สภาวะปรกติได้ แต่ก็ต้องระวังตัวยิ่งกว่าเดิม เพราะมีบทเรียนมาแล้ว อาการของคนในบ้านที่ติดเชื้อตอนนี้ไปกักตัวที่สุวรรณภูมิ เมื่อสองวันก่อน ก็ไม่รู้รส และกลิ่นแล้ว มีไอบวกมาด้วย แต่ก็ยังไม่มีอะไรรุนแรง ก็ต้องรอลุ้นกันไป
เวลานี้ ขอให้ทุกท่านแข็งแรง ปลอดภัย และที่สำคัญคือ ไม่ประมาท อย่าเห็นว่าไม่เป็นไร นิดๆหน่อยออกไปแค่นี้เอง ถ้าติดเชื้อมาคุณจะไม่คิดอย่างนี้แน่นอนแล้วคุณจะไม่ได้ติดคนเดียว แต่คุณจะนำเชื้อมาแจกทุกๆคนที่คุณใกล้ชิด โดยเฉพาะคนในครอบครัว ยิ่งใครมีญาติสูงอายุ ถ้าอยากให้ท่านอยู่ได้นาน ก็ได้โปรดเถอะครับ อย่าประมาท เพราะผมมานึกย้อนไปวันที่ญาติผู้ใหญ่เสีย ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน ท่านมีไข้ตัวร้อนตอนค่ำ ก็ลูกหลานพวกที่มีปัญหานี่แหละครับ เวียนไปมา หรืออาจจะติดมาจากลูกสาว ที่ไปทำงานพร้อมกันก็เป็นได้
วันนี้ก็มีแค่นี้ครับ แข็งแรง ปลอดภัยและไม่ประมาท ราตรีสวัสดิทุกท่าน
12 พฤษภาคม 2564 0.00 น. วันนีก็ไม่มีอะไรมากครับ นั่งๆ นอน อยู่แต่ในบ้าน ออกไปไหนไม่ได้เลย มีคนคอยจ้องอยู่ทั้งซอย(เหมือนเป็นโจรไงไม่รู้) ก็ดีครับได้พักผ่อนไปในตัว ปรกติผมก็ไม่ออกไปไหนอยู่แล้ว อยากได้อะไรก็ฝากคนข้างนอกซื้อมาให้ อาหารและน้ำดื่มก็มีคนคอยส่งให้ ไม่ลำบากอะไร เอาอะไรมาให้ก็กินได้ทั้งนั้นครับ แถวนี้คงจะโชคดีอยู่บ้างที่ประธานชุมชนเอาใจใส่ดีมาก คอยมาถามอยู่เป็นระยะว่าขาดเหลืออะไรบ้าง และอาจจะเป็นเพราะยังติดเชื้อกันน้อยมั้งครับ เลยไม่วุ่นวายเหมือนที่อื่นๆ มานั่งคิดดู ถ้าใครติดเชื้อตอนนี้แล้วรู้ตัวเร็ว ถือว่าเป็นโชคดีนะครับสำหรับบางคน เพราะจะได้รับการเอาใจใส่ค่อนข้างดีทีเดียว แม้ว่าบางเรื่องอาจจะต้องรอเป็นวัน เก็บตัวเร็ว กินอาหารที่ดี นอนเยอะๆดูอาการไป พอหายแล้วก็เหมือนได้ฉีดวัคซีนป้องกันตัวอีกด้วย แต่ก็ประมาทอีกไม่ได้เหมือนกัน เพราะตอนนี้มีเชื้อน้องใหม่จากอินเดียเข้ามาในบ้านเราแล้ว ไม่รู้ใครจะเป็นคนโชคร้าย
ก็ขอให้ทุกท่านปลอดภัยและแข็งแรงครับ อย่าประมาท แม้แต่คนในบ้านเดียงกันที่เขาต้องออกไปทำงานนอกบ้านครับ สวัสดีครับ
10 พฤษภาคม 2564 18.52 น. วันนี้ได้รับแจ้งผลการตรวจหาเชือ้โควิด 19 เจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งประมาณ 10.40 น ผลออกมาเป็น "ลบ" ครับ ทั้งสามคนที่เหลืออยู่ในบ้านไม่มีใครได้รับเชื้อเลย....แต่ๆๆๆ ต้องกักตัวอยู่บ้านจนถึงวันที่ 23 พ.ค. และต้องไปตรวจหาเชื้อรอบที่สอง เวลา 7.00 น. ครับ ก็สบายใจไปได้ช่วงหนึ่ง ส่วนเรื่องดาหาร น้ำดื่ม ทางประธานชุมชน ได้ประสานกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ได้มีการจัดส่งอาหารและน้ำดื่ม มาให้ตามจำนนวนคนในบ้านครับ แล้วก็ยังมีข้าวสาร อารแห้งอีกจำนวนหนึ่งมามอบให้ด้วย ก็ขอขอบคุณในการช่วยเหลือครั้งนี้เป็นอย่างสูงครับ
วันนี้ก็มีเท่านี้ครับอดภัย แข็งแรงครับ สวัสดีครับ
10 พฤษภาคม 2564 2.34 น. เมื่อวานไปต่อคิวที่โรงพยาบาลเพี่อตรวจหาเชื้อโควิด ออกจากบ้านตีสามกว่าๆ เริ่มเข้าคิวตอนเจ็ดโมงเช้า สอบประวัติ นั่งรอ และได้ตรวจประมาณ แปดโมงหน่อยๆ การตรวจใช้เวลาไม่นานก็จริงครับ แต่ เจ็บจมูกมากๆ ใครเคยไปตรวจก็คงจะจำไปอีกนาน ขั้นตอนการตรวจก็ไม่ยุ่งยาก แต่อาจจะมีปัญหากับผู้สูงอายุหรือเด็กที่ไม่สามารถทำความเข้าใจ ตามที่เจ้าหน้าที่บอกได้แต่แพทย์ผู้ตรวจก็ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดีครับ ไปตรวจในห้องความดันลบ แพทย์กับผู้ไปตรวจ อยู่คนละห้องแยกขาดกัน แจ่มีช่องถุงมือยางให้แพทย์ใช้หยิบจับอุปกรณ์ได้ดี แล้วนำมาแหย่เข้าไปในช่องจมูกและลำคอของเรา ซึ่งแหย่เข้าไปลึกมากๆ และเจ็บมากจริงๆครับ ผมนี่น้ำตาเล็ดเลย ต้องขออณุญาติคุณหมอร้องออกมาดังๆว่า "โอ้ยยยย เจ็บคร้าบบบบ" แล้วน้ำตาของตวามเจ็บก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ไม่อายด้วยครับก็มันเจ็บจริงๆ
สำหรับคนป่วยที่อยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่ได้เอารถมารับไปแล้ว เมื่อตอนค่ำของเมื่อวานนี้ครับ นำไปกักตัวและรักษาที่ โรงพยาบาลสุวรรณภูมิ อยู่ร่วมห้องกับเด็กอีกคนที่เป็นญาติกัน
สาเหตุของความวุ่นวายครั้งนี้เกิดจากคนแค่คนเดียว ก็ญาติๆกันเองนี่ล่ะครับ ไม่รู้ว่าป่วยตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วพอมีอาการป่วยก็ไม่ไปหาหมอ มีลูกและหลานอยู่ที่บ้านหลายคน หนึ่งในนั้นก็มารับคนในบ้านผมไปทำงานด้วยกันทุกเช้า พอดีมีเหตุญาติผู้ใหญ่เสียชีวิตอีก ครอบครัวนี้ทั้งบ้านก็ยังไปร่วมงานศพกันทั้งบ้านอีกตั้งสามวัน.......พอเช้าวันที่สี่เป็นวันเก็บอัฐิ ไม่ได้มาเพราะอาการเริ่มหนักแล้วเรียกรถพยาบาลมารับ ถึงรู้ว่าติดเชื้อโควิด 19.......ที่นี้ก็วุ่นสิครับ วิ่งหาที่ตรวจกันทั้งหมดเลยที่มางานศพ ตั้งหลายสิบคน เริ่มตรวจเมื่อวันที่ 5 พ.ค. รู้ผลวันที่ 8 ปรากฎว่า บ้านต้นเรื่อง ติดเชื้อเพิ่มมาอีกหกคน บ้านผม อีกหนึ่ง เหลืออีกสามซึ่งรวมผมด้วยรอฟังผลอ้อบวกอีกสองคนเป็นญาติที่ชอบมานั่งคุยที่บ้านเป็นประจำครับ วันนี้น่าจะตอนเที่ยงหรือบ่ายครับ ส่วนคนอื่นๆที่มาในงานศพ ก็เริ่มได้ข่าวว่าไปตรวจกันแล้วแต่ยังไม่ได้บอกมาว่าผลออกมาเป็นอย่างไร
ครับก็เป็นอีกแค่เหตุก่รณ์หนึ่งที่งี่เง่ามากๆ เท่าที่เคยเจอมา แม้จะเคยได้ยินมาบ้างจากข่าวก่อนหน้านี้ แต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวเอง เลยประมาทไปเยอะครับ งานนี้พลาดเองจริงๆ ทั้งๆที่ระวังตัวเองอยู่ตลอดเวลาแล้วแท้ๆ ก็ได้แต่เอามาบอกกล่าวกันไว้ว่า แม้แต่คนในบ้านก็อย่าไว้ใจเด็ดขาดระครับ
ขอให้ทุกท่านปลอดภัยและสุขภาพแข็งแรงครับ ราตรีสวัสดิครับ
8 พฤษภาคม 2564 2.17 น. ก็เป็นอันแน่นอนแล้วว่ามีคนในบ้านติดโควิดหนึ่งคน อีกสามคนยังไม่ได้ตรวจ กำลังหาที่ตรวจอยู่ครับ จะไปศิริราชอีกชั่งโมงข้างหน้านี้ ไม่รู้ว่าจะทันคิวหรือเปล่าเพราะที่นี่รับตรวจวันละ 20 คน เท่านั้น.....!!!!!!!!!....ก็ต้องสู้กันต่อไปครับ เมื่อตอนเย็นก็ยังไม่มีรถมารับผู้ป่วยเลย ก็ต้องอยู่ร่วมบ้านกันอีกหนึ่งคืน ตอนนี้ดูอุณหภูมิในมือถือ มันบอกว่าที่นี่ 26 องศาซี แต่ผมร้อนเหงื่อหยดเลยครับ ต้องเปิดพัดลม สาเหตุน่าจะมาจากเมื่อตอนค่ำ ผมตำ "กระชายขาว" เท่าที่จะละเอียดได้ แบ่งเป็นสี่แก้ว ใส่ไปประมาณครึ่งแก้ว แล้วผสมน้ำเปล่าธรรมดา แจกกันดื่มคนละแก้ว แก้ขัดไปก่อน นอนหลับไปตอนประมาณ สี่ทุ่มครึ่งหน่อยๆ ตื่นเพราะปวดท้องเข้าห้องน้ำเกือบเที่ยงคืน แล้วกลับไปนอนต่อ ก็ไม่หลับแล้วครับเลยลุกมานั่งตอนตีหนึ่งกว่าๆ ไม่ได้เปิดพัดลม สักพักเหงื่อซึมเลยครับ พอดูมือถือ อ้าว มันก็ลงมาตั้ง 26 ทำไมร้อน.....
ก็มาอัปเดทเพิ่มเติม บอกกล่าวกันครับ ไม่รู้จะทำยังไงต่อเหมือนกัน ถ้ามันตรวจฟรียากนัก ก็เห็นจะต้องเสียเงินคนละสามพัน บวกค่าหมออีก ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นครับ และทั้งสี่คนในบ้านก็ยังไม่มีอาการอะไรครับ คืนนี้ก็มีเท่านี้ครับ ขอให้ทุกท่านปลอดภัยและแข็งแรงครับ สวัสดีครับ
7 พฤษภาคม 2564 0.16 น. ย่างเข้าวันศุกร์แล้ว สวัสดีครับทุกท่าน ตั้งแต่ขึ้นเดือนนี้มา บ้านเราร้อนเป็นไฟเลย ทั้งสภาพอากาศ ทั้งสถานการณ์การเมือง และที่แรงแซงทุกเรื่องคือ โควิด 19 มันลามไปทั้วประเทศและที่สำคัญ ใน กทม เองนี่เอาตามความรู้สึกก่อนนะครับ มันใกล้ตัวทุกคนมากขึ้นทุกที ผมก็โดนเต็มๆ ไม่รู้จะติดด้วยหรือเปล่า เพราะคนใกล้ชิด ไปทำงานกับลูกของคนที่เป็นโควิดพร้อมกันตอนเช้าๆ.....ได้แต่รอผลตรวจของเขา แต่ตัวผมเองยังไม่ได้ตรวจ กำลังจะไปหาที่ตรวจอยู่เหมือนกัน มันไม่มีในข่าวทางทีวีครับ แต่มันมีในชีวิตจริงๆแล้ว ที่ผ่านมาระวังตัวอย่างที่สุดแล้ว ไม่ออกไปไหน ถ้าต้องออกก็ปิดปากจมูก เอาแอลกอฮอร์พกไปด้วย จับอะไรก็ฉีดหมด เงินก็ฉีด ฯลฯ ถ้ามันจะมาเสียท่าเพราะคนใกล้ตัวก็ต้องยอมแล้วครับ ก็หาวิธีแก้ไขกันต่อไป
วันนี้ก็ได้แต่มาแจ้งเตือนกันเท่านั้นครับ ไม่มีบทความอะไรมาเพิ่มเติม คงต้องเว้นระยะไปอีกสักพักใหญ่ ไปทำใจให้สงบ รอรับผลที่มันจะกระแทกเข้ามา ยอมรับว่าจิตรตกจริงๆ ทั้งๆที่ยังไม่รู้ผลอะไรเลย แต่ก็ต้องผ่านมันไปให้ได้ครับ จะทุลักทุเล ทุเรศขนาดไหนก็ต้องดิ้นกันไปให้ได้
ก็ได้แต่หวังว่าทุกท่านคงปลอดภัยกันดีนะครับ อย่าประมาทแม้คนใกล้ตัว ขอให้ทุกท่านปลอดภัยครับ แล้วพบกันใหม่ครับ สวัสดี