อุบัติเหตุเรือเฉี่ยวกันในแม่น้ำเจ้าพระยา

          6 ธันวาคม 2567 3:21 น. สวัสดีครับทุกท่าน ล่วงเข้าสุ่เดือนสุดท้ายของปี พ.ศ. 2567 แล้ว แปปเดียวเอง ปีนี้ ผมไม่ค่อยได้ทำบทความเกี่ยวกับเรือสักเท่าไหร่ เพราะหมดมุกแล้วครับ ถ้าจะเอามาทำใหม่มันก็คือเรื่องเก่าๆ เดิมๆ เหมือนกับที่ทำมาแล้วนั่นเอง
          บทความในปีนี้ที่กำลังจะผ่านไปเลยพาออกทะเลซะเป็นส่วนใหญ่ อ้อ ช่วงไม่กี่วันนี้ มีข่าวเกี่ยวกับเรือในบ้านเราอยู่สามเรื่อง เท่าที่ผ่านตาผมนะครับ คือ หนึ่ง เกิดการเฉี่ยวชนกันระหว่างเรือพวงสีดำๆ ที่เราเห็นกันชินตาในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ลากด้วยเรือลาก และแต่ละพวงก็มีมากน้อยไม่เท่ากัน แล้วแต่ความยาวของเรือที่ถูกลากนั่นแหละครับ

            ประมาณในภาพด้านบนนี่แหละ ดูตามข่าว ที่เกิดเหตุน่าจะอยู่แถว เอเชียทีค ก่อนถึงสะพานกรุงเทพประมาณนั้นครับ โดยเรือลากพวงหนึ่ง ได้ เฉเขาไปเบียดกับเรือท่องเที่ยวที่เทียบท่าซ้อนกันอยู่ เกิดความเสียหายจำนวนห้าลำตามข่าวครับ และมีเรือท่องเที่ยวขนาดเล็กอีกหนึ่งลำจมอยู่ในบริเวณนั้นด้วย ไม่มีผู้เสียชีวิต มีผู้บาดเจ็บหนึ่งคนประมาณนั้นครับ
         ส่วนสาเหตุ เท่าที่เห็นในคลิป เรื่องพ่วงแล่นใกล้ฝั่งมากไปหน่อยจะด้วยกระแสน้ำ หรือ ผุ้บังคับเรือลากที่อยู่หน้าสุดกะระยะผิดพลาดก็เหลือวิสัยของผมที่จะคิดได้ครับ ต้องรอการสอบสวนของผู้ที่มีหน้าที่ต่อไป
         ส่วนความเสียหายของเรือท่องเที่ยวทั้งห้าลำ ก็ต้องรีบนำไปเข้าอู่ซ่อมอย่างเร็ว เพราะไม่งั้นจะพลาดฃานส่ฃท้ายปีไปอย่างน่าเสียดายมาก ส่วนเรือบบรทุกสีดำๆทำไม่ไม่มีความเสียหายให้เห็นเลย ผมขอตอบว่า ความหนาของเหล็กเปลือกเรือทั้งสองชนิดมันหนาไม่เท่ากันนั่นเองครับ เรือท่องเที่ยวขนาดในข่าว ลำตัวเรือด้านข้างจะใช้เหล็กหนา ประมาณ 6 มิลลิเมตร ไม่น่าจะหนาเกินนี้ เพราะจะไปเพิ่มน้ำหนักของเรือมากขึ้นนั่นเอง ลำแรกที่โดนเฉี่ยวบริเวณท้ายเรือ อาจจะมีน้ำทะลักเข้าไปในท้ายเรือส่วนนั้นบ้าง แต่ไม่ถึงกับทำให้เรือจมได้ เพราะถัดจากท้ายเรือเข้าไป จะมีผนังกันน้ำอีกหนึ่งชั้นนั่นเอง ส่วนห้องที่ท้ายเรือก็จะเป็นที่อยู่ของ ชุดหางเสือเรือ และกระบอกไฮดลอลิคอยู่ในบริเวณนั้นเท่านั้นครับ
         ส่วนเรือบรรทุกสีดำๆที่เรียกกันติดปากว่าเรือ โป๊ะนั้น จากที่เห็น เหล็กตัวเรือด้านข้างน่าจะมีความหนา ไม่ต่ำกว่า 9 มิลลิเมตรและยังมีเหล็กเส้นเพลายาวเป็นรอยต่อแผ่นในบางช่วงตลอดความยาวเรือ ส่วนข้างเรือใกล็กับพื้นดาดฟ้า ก็จะมีแผ่นเหล็กหนา ไม่ต่ำกว่า 10 มิลลิเมตรกว้างประมาณ 15-20 เซ็นติเมตร คาดยาวไปตามลำเรืออีกต่างหาก

            สองภาพข้างบนก็คือตัวอย่างของรูปร่างหน้าตาเรือโป๊ะ และโครงสร้าง ลำนี้เหล็กด้านข้างเรือหนา 10 มิลลิเมตร และเหล็กแผ่นที่คาดด้านข้างใกล้กับพื้นดาดฟ้า กว้าง 270 มม. หนา 10 มม. เหมือนกัน ซึ่งถ้าเรือโป๊ะในคลิป ยาวมากกว่านี้ ความหนาของเหล็กตัวเรือก็อาจจะหนาหว่านี้ก็ได้ครับ ส่วนน้ำหนักนี่ เที่ยบกันไม่ได้เลยครับ เรือโป๊ะบรรทุกทรายเท่าที่ดูนำหนักน่าจะเกิน 1000 ตันขึ้นเผลอๆอาจจะถึง 2000 ตัน ต่อลำด้วยซ้ำไปครับ ส่วนเรือท่องเที่ยวที่เห็น น้ำหนักเต็มที่ ไม่น่าจะเกิน 200 ตัน อาจจะไม่ถึงด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเรือท่องเที่ยวถึงเกิดความเสียหายมากมายหลายลำตามที่เป็นข่าว ถ้าจะให้เปรียบเทียบกับรถยนต์ ก็ ประมาณ รถบรรทุกดินเฉี่ยวกับรถบัสนำเที่ยวนั่นแหละครับ
        ตามดูคลิปที่ลิ้งค์ด้านล่างได้เลยครับ

   https://www.youtube.com/watch?v=BGMvCbSFOL4

         ข่าวที่สองคือเกิดเพลิงไหม้เรือโรงแรมที่เกาะช้าง เรือลำนี้เป็นเรือเก่ามากแล้วครับ ได้นำมาเสียบเข้าไปในเกาะช้างและทำเป็นโรงแรมสุดหรูอยู่ช่วงหนึ่ง จนปัจจุบันได้กลายเป็นเรือทิ้งล้างเอาไว้นั่นเอง จากข่าว เพลิงได้ไหม้ชึ้นที่ชั้นที่หนึ่งแล้วลามไปทุกชั้น สภาพและคุณสมบัติของเหล็กก็คงจะเปลี่ยนไปมาก หลังจากนี้ไม่ควรเข้าไปภายในตัวเรือเลยครับ เพื่อความปลอดภัย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าของเรือเขาจัดการเองครับ
     ตามไปดูได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างครับ
https://www.youtube.com/watch?v=PhVPp7lLCnw

         ข่าวที่สามน่าเศร้าครับเรือประมงไทยถูกเรือรบพม่าไล่ยิงเกือบชั่วโมงเพราะพม่ากล่าวหาเราว่าเรือประมงไทนลุกล้ำน่านน้ำเขามีผูเสียชีวิตสองท่านสูญหายอีกสี่คนโดนจับไปสามสิบกว่าคนข่าววันนี้เห็นว่า ทางพม่าปล่อยคนลูกเรือที่เป็นคนไทยมาสองคน ที่เหลือทั้งเรือและลูกเรือชาวต่างชาติถูกกักตัวไว้ มันไม่น่าจะเกิดขึ้นในสมัยนี้เลยครับ ฝั่งอันดามันไม่เคยได้ยินข่าวอย่างนี้มาก่อนเลยสำหรับผม ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชิวิตทุกท่านด้วยครับ
          ในสมัยเมื่อสามสิบกว่าปีมาแล้วในทะเลด้านตะวันออก ติดกับกัมภูชา เรือประมงบ้านเราก็มักจะโดนไล่จับไล่ยิงอยู่บ่อยจากทั้ง กัมพูชาและเวียตนาม แม้เรือบางลำยังอยู่ในเขตไทยก็ยังโดน สมัยนั้นผมลงไปทำงานอยู่แถวๆนั้นมีเรื่องเล่ามากมาย เช่น กัมพูชามักจะใช้เรือประมงไทยที่ยึดไป ติดอาวุธ แล้วเข้ามาจับเรือไทยในเขตของเรา พอได้รู้กันแล้ว ก็เลยโดน ทร ของเราดักเอา ประเภทไม่ต้องจับกลับมาให้เปลืองข้าวเปลืองน้ำเลยเจอที่ไหน ก็ซัดกันกลางทะเลตรงนั้นเลย ปืนเรือของ ทร มีระยะยิงหวังผลไกลกว่ามาก ส่วนเรือกัมพูชาที่ปลอมเป็นเรือประมง อย่างมากก็มีปืนกล 12.7 มม. และจรวด RPG เท่านั้น ระยะยิงหวังผลไม่ต้องพูดถึงครับ ในทะเล หาความแม่นยำไม่ได้เลยก็แล้วกัน ถ้าไม่ใกล้ขนาดมองเห็นหน้าเห็นตากัน ยิงยังไงก็ไม่โดน สุดท้ายเรือประมงปลอมพวกนี้ก็หมดไปจากทะเลตะวันออกจนถึงทุกวันนี้ครับ นั่นคือเรื่องที่เขาเล่าต่อๆกันมาในวงเหล้านะครับ เท็จจริงอย่างไรผมไม่ขอยืนยันเพราะไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง
         ช่วงหลายปีมานี่ผมรู้สึกว่า ประเทศข้างบ้านเราทั้งซ้าย-ขวา ไม่ค่อยเกรงใจเราเลย หรือผมคิดไปเอง
          วันนี้มีแต่ข่าวมาเล่าสู่กันเท่านั้นครับ นี่ก็จะเช้าแล้ว ตอนนี้กำลังคิดอยู่เรื่องหนึ่งว่า จะรับสมัครผู้ที่สนใจเรื่องการ ออกแบบและเขียนแบบเรือ มาฟังกันทางออนไลน์ อีกสักรุ่นหนึ่งก่อนสิ้นปีครับ เดี๋ยวผมจะกำหนดวันอีกครั้ง ท่านใดสนใจก็ทักมาทางไลน์ได้เลยครับ จำนวนก็คงไม่เกินสิบท่านหรืออาจจะน้้อยกว่านั้นก็ได้ เพราะมันอยู่ที่ ความเร้วของ อินเตอเนตด้วยครับ ไว้ผมจะบอกอีกทีก็แล้วกัน วันนี้ อรุณสวัสดิครับทุกท่าน
5:09 น.     

....................................................................................................