การต่อเรือ อเนกประสงค์

5 ปีที่ผ่านมา
โดย เจ้าของร้าน



      สวัสดีครับ วันนี้ 9 ตุลาคม 2563 0.10 น. หายไปนานเลยด้วยงานที่ไม่แน่นอน ฝนก็ไม่แน่นอน แต่ที่แน่ๆ ออกพรรษาแล้ว ฝนยังตกไม่หยุดแถมตกนานกว่าช่วงที่อยู่ในฤดูฝนซะอีกครับ เขาว่าจะตกอีกหลายวัน ก็ขอให้ทุกท่านปลอดภัยนะครับ
       วันนี้ก็ยังคงไม่ได้เขียนแบบเรือจำลองอีกเหมือนเดิม ไม่มีเวลา(และอารมณ์)จริงๆครับ ก็เลยมาเล่านิทานแก้ขัดก็แล้วกันนะครับ
       เรื่องมีอยู่ว่า........





      จำเรือลำนี้กันได้ไหมครับ เมื่อ 25 ปีที่แล้วมีเจ้าของรีสอทร์แห่งหนึ่ง ที่ จังหว้ดกระบี่ เขาติดต่อมาว่าต้องการเรือ ขนาดไม่ใหญ่มาก เพื่อนำไปใช้งาน บรรทุกของ น้ำจืด น้ำมัน และว้สดุก่อสร้าง ฯลฯ ไปยังเกาะ....(รายละเอียดการออกแบบ ผมได้ลงไว้ในเรื่อง "เรืออเนกประสงค์" ครับ) เมื่อการเจรจา และต่อรอง ตกลงกันได้ โครงการนี้ก็ได้เริ่มขึ้น โดยเอาความต้องการของผู้ว่าจ้างมาบวกกับ กฎฯระเบียบต่างๆของกรมเจ้าท่า เขย่าไปมา ก็ได้แบบออกมาดั่งที่เห็นนี่แหละครับ เป็นเรือเดินทะเลชายฝั่ง ขนาดค่อนข้างเล็ก ฝ่าคลื่นลมปรกติแถวๆ ภูเก็ต กระบี่ เกาะพีพี ได้สบาย ตัวเรือและเก๋ง ทำด้วยเหล็ก รหัส SS400 (SS400 เป็นรหัสของเหล็กครับ บ้านเราส่วนใหญ่ใช้เหล็กเกรดนี้ในการต่อเรือครับ) โครงสร้างของเรือเป็นแบบ โครงสร้างตามแนวยาว....ยังไงดี งั้นดูภาพด้านล่างละกันครับ

        ภาพด้านล่างมาจาก https://amarineblog.com/2017/07/03/hull-framing-system-translongi/

             ในปัจจุบันเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ ก็ใช้โครงสร้างลักษณะนี้ ในช่วงของระวางบรรทุกที่เป็นแนวตรงตามยาวของเรือ มันทำให้น้ำหนักเรือลดลงแต่ความแข็งแรงก็ยังไหวอยู่ แต่นั่นก็หมายความว่า ต้องผ่านการคำณวนจากผู้ออกแบบแล้วนะครับ ก็จะได้ขนาดของเหล็กต่างๆที่จะใช้ได้อย่างถูกต้อง ถ้าขนาดเรือเปลี่ยน ขนาดเหล็กที่ใช้ก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย ผู้ออกแบบเขาจะคำณวนเผื่อเอาไว้แล้ว เจ้าของเรือหรือเจ้าของอู่บางราย เห็นขนาดมันใกล้เคียงกับเรือที่เคยมี หรือเคยต่อมาแล้ว ก็จะไปลดความหนาของเหล็กลงมั่ง หรือไม่ก็เปลี่ยนชนิดของเหล็กไปเลยก็มีฯ ซึ่งอันตรายมาก เขาอาจจะให้เหตุผลว่า ก็ทำมาตั้งหลายลำละ ไม่เห็นเป็นไรเลย เรือก็ยังวิ่งได้เป็นสิบๆปี ฯลฯ สารพัดจะอ้าง เพราะถ้าเปลี่ยนได้นั่นหมายถึงต้นทุนจะลดลงอีกเยอะเลย แต่นั่นคือสมัยก่อนนู้นนนนน นะครับ ไม่รู้ตอนนี้ยังเป็นกันอยู่หรือเปล่า ....ผ่านๆๆๆๆๆ ไม่ดราม่าดีกว่า มาว่ากันต่อ กล่าวถึงโครงสร้างตามแนวยาวไปแล้ว จะไม่ทำความรู้จักกับโครงสร้างแบบขวาง มันก็กระไรอยู่ ไปดูรูปกันเลยครับ

    ภาพด้านล่างมาจาก https://amarineblog.com/2017/07/03/hull-framing-system-translongi/


Transverse+Framing-+Many,+closely-spaced+Frames.jpg

                จากภาพด้านบนนี้ จะเห็นความแตกต่างกับภาพแรกได้อย่างชัดเจน กงหรือ FRAME ในภาพแรกจะมีขนาดใหญ่กว่ามาก แต่จะมีจำนวนน้อยกว่า แต่จะมีกงตามแนวยาวหรือ GIRDER ที่เป็นรูปตัวทีสีส้มที่ท้องเรือ(BOTTOM)  ,แท๊งท๊อปอันนี้ขอเรียกทับศัพท์ก็แล้วกัน มันคือพื้นหรือ DECK ที่อยู่เหนือขึ้นมาจากท้องเรือ(BOTTOM) จะไม่สูงมากนัก เรือขนาดความยาว 70-100 กว่าเมตร บางลำสูงแค่เมตรกว่าๆก็มี แต่ถ้าใหญ่และยาวมากๆ อาจจะสูงได้ สามถึงสี่เมตรก็มี ซึ่งชั้นนี้ก็จะมีอยู่ในโครงสร้างทั้งสองแบบ ถามมีเพื่อ....คำตอบก็คือ หลักๆเลย เพิ่มความแข็งแรงให้กับท้องเรือ ต่อมาก็เพิ่มความปลอดภัยในกรณีที่เรือไปเกยตื้นหรือโดนหินใต้น้ำ ท้องเรือเกิดความเสียหาย น้ำก็จะเข้ามาได้แค่ใต้พื้นนี้แค่นั้น และอีกอย่างก็คือ ใช้เป็นที่เก็บ น้ำมันเชื้อเพลิง ,น้ำจืด ,น้ำถ่วงเรือหรือถังอับเฉา(BALLAST TANK) ฯ ประมาณนั้นครับ ส่วนเส้นเล็กๆ สีดำที่อยู่ตามแนวยาวในภาพด้านบนก็คือกงตามแนวยาวอีกชนิดนึง ส่วนใหญ่จะเป็นเหล็กฉาก แต่ถ้าไปอยู่ที่ข้างเรือ ฝรั่งเขาเรียกว่า สตริงเกอร์หรือ STRINGERS ส่วนคนไทยเรียกว่าอะไร ผมก็ไม่ทราบครับเพราะไม่เคยได้ยินเหมือนกัน ชักไปไกลละ มาเข้าเรื่องกันดีกว่า
            จากข้อตกลงสรุปว่าเรือลำนี้จะไปต่อที่  คลองบางลี่      อำเภอ สองพี่น้อง สุพรรณบุรี...............ห่างจากตลาดบางลี่ประมาณ จำไม่ได้ครับ แต่รู้สึกว่าไม่ไกลมาก เพราะพายเรือไปกินกาแฟตอนเช้าได้ก็แล้วกัน ก็ขอพักแค่นี้ก่อนนะครับ ตีสองแล้ว เขาบอกว่าคนแก่อย่านอนดึก..... 
          สี่ทุ่มของวันที่ 9 ตุลาคม 2563 ฝนตกทั้งวันอีกเหมือนเดิม อากาศสบายน่านอนจัง........จริงๆแล้วโครงการเรืออเนกประสงค์ลำนี้ ผมไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องตั้งแต่เริ่มต้น แต่พอดีมีพี่คนนึงที่คุมโครงการนี้อยู่ ติดภาระกิจสำคัญขึ้นมาหลังจากเริ่มไปได้ไม่กี่เดือน ผมจึงถูกเรียกตัวเข้ามาเสริมอีกที เมื่อเรือได้วางกระดูกงูไปแล้ว
          คำว่ากระดูกงูเรือ หลายๆท่านอาจจะทราบดีอยู่แล้ว แต่สำหรับท่านที่ยังไม่ทราบว่ามันคืออะไร อยู่ตรงไหนของเรือ ผมก็จะขออธิบายอีกครั้งนะครับ กระดูกงูเรือ(KEEL) คือโครงสร้างตามยาวเรือที่ตั้งฉากกับเส้น เบสไลน์ (BASELINE : B.L.)ที่กึ่งกลางลำและอยู่ติดกับแผ่นท้องเรือ(BOTTOM PLATE)........
 
                กลับมาที่เรืออเนกประสงค์กันต่อครับ ตอนที่ผมเข้ามาดำเนินการต่อนั้น ตัวเรือได้ประกอบเสร็จไปหลายส่วนแล้ว เหลือแต่การเชื่อมแนวแผ่นต่างๆ และเริ่มประกอบเก๋งเรือ(SUPPERSTRUCTURE)บนพื้น เมื่อเสร็จแล้วจะใช้เครนยกขึ้นไปประกอบบน พื้นดาดฟ้า(MAIN DECK) ต่อไป เรือลำนี้ใช้ผู้รับเหมามาต่อ ใช้คนประมาณสิบคน ส่วนเหล็กก็สั่งไปจาก กทม บ้าง หรือไม่ก็นครปฐมบ้างก็มี ลวดเชื่อม ก็มาตราฐานตามที่ผู้ว่าจ้างกำหนด,สีรองพื้นถ้าจำไม่ผิด น่าเป็นของ โจตันครับ ราคาเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน วัสดุหรืออุปกรณืบางอย่างก็หาได้จาก ตลาดบางลี่นี่เอง ขาดเหลืออะไรก็ขี่มอไซด์เข้าตลาด จำได้ว่าช่วงนั้นเข้าหน้าฝนมาเป็นแล้ว ไฟฟ้าที่ใช้ในการทำงานก็ เช่าเครื่องปั่นไฟ ติดตอนเช้า ดับเครื่องเมื่อเลิกงาน 
            และแล้วก็งานงอกจนได้ ปีนั้น 2538 ประมาณเดือน กันยายน ถ้าจำไม่ผิดนะครับ สมัยนั้นยังไม่มีอินเตอร์เนต โทรศัพท์มือถือก็เครื่องเท่ากระติกน้ำ ที่ต่อเรือก็ไม่มีทีวี ช่าวสารต่างๆก็ได้จากหนังสือพิมพ์ร้านกาแฟหน้าปากทางเข้าหมู่บ้าน ไปนั่งกินกาแฟก็เห็นอยู่แวปๆเหมือนกันว่ามีข่าวน้ำท่วมทางภาคเหนือและภาคกลางตอนบน ตอนนั้น ตัวเรือเชื่อมเสร็จเรียบร้อยวางเครื่องจกรใหญ่สองเครื่อง ใส่เพลาและใบจักกรเสร็จแล้ว  แต่บนเรือและในระวางบรรทุกยังเชื่อมไม่เสร็จ น้องน้ำครับ เขามาเหมือนปี 2554 เลย ตื่นเช้ามา มองไปที่คลองบางลี่....!!!!!!! โห น้ำงี้เต็มตลิ่ง สีโอวันตินมาเชียว ตกสายๆ ระดับน้ำก็เขยิบล้นตลิ่งขึ้นมาละ พอเที่ยง ก็เข้ามายึดพื้นบ้านชั้นล่างเรียบร้อย สูงประมาณหลังเท้า ตอนนี้ก็สั่งหยุดงานกันแล้ว ยกเครื่องปั่นไปสูงขึ้นมาอีกเมตร ส่วนเรืออยู่สูงกว่าพื้นประมาณ เมตรยี่สิบ ทีนี้ก็รอลุ้นกันแล้วครับ หลังเที่ยง นั่งมองดูน้ำ ระดับมันสูงขึ้นมาชั่วโมงละหนึ่งนิ้ว !!!!!!!!! ฮาไม่ออกแล้วครับทีนี้ บ้านใครอยู่ อำเภอสองพี่น้อง คงจะจำได้ ตกเย็น น้ำที่ชั้นล่างของบ้าน อยู่ที่หัวเข่า........และยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง..........ตอนนี้ มองรอบๆบ้าน ไม่รู้ว่าตรงไหน ถนน ตรงไหนคลองบางลี่ ตรงไหน สระน้ำ ฯ สีมันเหมือนกันไปหมด แม้แต่ยอดหญ้าก็มองเกือบไม่เห็น นาข้าวหรอครับ มิดไปตั้งแต่บ่ายแล้วครับ
            
          ในบ้านเรา หลายท่านคงทราบ เมื่อจะต่อเรือใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรือไม้หรือเรือเหล็ก ถ้าเป็นเรือที่มีขนาดใหญ่ หรือเรือที่ใช้ประกอบอาชีพ ก็จะมีพิธี วางกระดูกงู หรือ ไหว้ทวนหัวของเรือเสียก่อน เพื่อเป็นศิริมงคลกับเรือและผู้ที่จะทำงานบนเรือลำนั้นๆ ให้โชคดีตลอดการใช้งาน ฯ และในสัญญาต่อสร้างเรือส่วนใหญ่ ก็จะกำหนดการเบิกจ่ายงวดงานด้วยการ วางกระดูกงู หรือ ติดตั้งทวนหัวเรือ (บางส่วน) แล้วเสร็จตามรายละเอียดในสัญญา 


 

                จากภาพด้านบนก็เป็น พิธีวางกระดูกงูเรือลำนี้ครับ หารูปเจอละ แต่เป็นรูปถ่ายนะครับยังไม่ได้สแกน จากทั้งสองภาพด้านบนจะประกอบด้วยรูปถ่ายอยู่หลายรูป เป็นพิธีวางกระดูกงูของเรืออเนกประสงค์ลำนี้ครับ ในการเตรียมการต่อเรือลำหนึ่ง จากภาพจะเห็นว่า มีการสร้างฐานรองรับเรือ โดยปรกติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการต่อเรือจริงๆหรือเรือจำลอง จำเป็นจะต้องมีฐานรองรับเรือที่มั่นคงและมีระดับที่คงที่ เรือจะตรงหรือเลี้ยวไปแล้วมา ก็อยู่ที่ฐานรองรับเรือนี่แหละครับ และระดับ หรือความสูงของฐานตัวนี้ต้องเท่ากันตลอดเวลาของการต่อเรือ วิธีตรวจสอบก็คือ ช่างต่อเรือ จะตั้งหลักหรือเสาขึ้นมาต้นหนึ่ง อย่างถาวร และระดับความสูงของฐานรองรับเรือและตัวเรือเองก็จะถ่ายระดับไปจากเสาต้นนี้นั่นเอง สมัยก่อนช่างจะใช้สายยางใส่น้ำ ถ่ายระดับน้ำจากเสาต้นนี้ไปหาฐานรองเรือ แต่ปัจจุบันช่างบางอู่ก็หันมาใช้ตัววัดระดับด้วย เลเซอร์กันแล้วเพราะมันถูกลงมากนั่นเอง
        ถามว่าทำไมต้องยุ่งยากด้วย ก็สร้างฐานรองเรือให้ดีสิ ทำให้มั่นคงแค่นั้นก็ได้ละ ก็ต้องขอตอบว่า ในสมัยก่อน เพื่อลดต้นทุนการผลิต ช่างรับเหมาบางส่วน ใช้วิธีไปเช่าที่เพื่อต่อเรือที่ได้งานมา ครั้นจะไปเช่าอู่ต่อเรือ ที่มีทุกอย่างพร้อม รวมถึง พื้นคอนกรีต ที่ตอกเสาเข็มเทคาน ปรับระดับเรียบร้อย พร้อมที่จะสร้างฐานรองเรือได้นั้น มันเสียค่าใช้จ่ายสูงมาก จนไม่คุ้มกับมูลค่างานที่ได้ หรือ อีกอย่างก็คือ อู่หลายๆอู่ ก็พยายามลดต้นทุนตรงนี้ เลยไม่ได้เตรียมพื้นที่ต่อเรือให้ได้มาตราฐาน ก็จะใช้วิธีนี้นั่นเอง แต่ก็ต้องคอยตรวจระดับกันทุกวันด้วยเหมือนกัน เพราะเรือที่ต่อใหม่ น้ำหนักก็จะเพิ่มขึ้นทุกๆวันเช่นกัน จนเสร็จ ลำนี้ น้ำหนักเรือทั้งลำประมาณ เกือบ 10 ตัน ครับ


    ภาพนี้เป็นโครงสร้างท้ายเรือ จะเห็นแผ่นกั้นห้องหรือ ผนัง ของเรือติดตั้งอยู่บนแผ่นเหล็กที่ปูตามยาวเรือ จะเห็นว่า แผ่นเหล็กตอนนี้ มันเป็นลูกคลื่นสูงๆต่ำๆ เพราะช่างเขาวางไว้เฮยๆครับ ยังไม่ได้ปรับระดับเชื่อมยึดกับอะไรเลย


        ภาพนี้จะเห็นรายละเอียดของฐานรองรับเรืออย่างชัดเจน ใช้เหล็ก ไอบีมขนาดใหญ่สองเส้น มาต่อขนานกันกันแล้ววางลงบนพื้นที่ ที่เตีรียมไว้อีกที ที่ตรงนี้ เดิมเป็นดินนุ่มๆครับ แต่ใช้การบดอัด และเททับด้วยหิน ไซด์หนึ่ง หรือ หินหนึ่ง นั่นเองหนาพอสมควรแล้วบดอัดอีกที  เมื่อวางไอบีมเข้าที่ ก็ตั้งเสารองรับเรือตามจุดที่กำหนด


    ภาพนี้การประกอบโครงสร้างต่างๆเสร็จไปมากพอสมควรครับ แผ่นเหล็กตัวเรือและโครงสร้างของเรือลำนี้หนา 6 มิลลิเมตรครับ


  ภาพนี้เป็นการปูแผ่นเหล็กพื้นระวางบรรทุก ที่รองรับ ทั้งรถกระบะและวัสดุก่อสร้างอื่นๆครับ


  ภาพนี้เป็นโครงสร้างหัวเรือด้านข้างครับ


  ภาพนี้กำลังประกอบขอบระวางบรรทุก ส่วนรูปตรงกลางคืิ เก๋งเรือ ที่ประกอบอยู่บนพื้น ก่อนที่จะยกขึ้นไปประกอบบนตัวเรือครับ


   โครงสร้างใต้ระวางบรรทุกจะใส่ท่อเหล็กเป็นเสาเสริมเข้าไปด้วยครับ


 ประกอบส่วนต่างเป็นตัวเรือและเก๋งเรี่ยร้อยก็ไล่เชื่อมแนวต่างๆให้เสร็จ รูปกลาง คืออุโมงใบจักท้านเรือครับ สาเหตุที่ต้องทำอุโมงตัวนี้ก็คือ เรือลำนี้ต้องเข้าไปเกยชายหาดเวลาใช้งาน ดังนั้นใบจักต้องไม่เกินเส้น B.L. หรือแนวท้องเรือลงมา ไม่งั้นใบจักรเรือจะฝันดิน หิน หรือทรายฯ เสียหาย ส่วนรูปล่างสุด คือโครงสร้างแท่นเครื่อง ลำนี้มีสองเครื่องยนต์ สองเพลาใบจักรครับ เป็น เครื่อง cummin รหัสอะไรผมก็จำไม่ได้ละ ประมาณ 195 แรงม้าต่อเครื่องครับ


 รูปบนในภาพนี้คือท่อ ไว้ สูบน้ำ หรือน้ำมัน เข้า ออก จากห้องใต้ระวางบรรทุก ซึ่งทำเป็นถังบรรทุกน้ำและน้ำมันครับ รูปกลาง คือโครงสร้างใต้ระวางที่เป้นโครงสร้างตามแนวยาวตามที่ได้ อธิบายไว้ข้างต้นครับ รูปล่างคือท้องเรือ ผ่าเหล็กเส้นขนาด 1 1/2" เชื่อมตามยาวใต้ท้องเรือ เพื่อเสริมความแข็งแรงครับ


    รูปบนเป็นข้างเรือ ท่อสีดำคือท่อเหล็ก ขนาด 4" ผ่าครึ่ง เชื่อมตรงตำแหน่งนี้ เป็นกันชนครับ รูปกลางเป็นระบบท่อต่างๆ รูปล่าง เป็นโครงสร้างแท่นเครื่องครับ พื้น MAIN DECK เหนือแท่นเครื่องจะทำช่องที่เปิด ปิดได้ เพื่อที่จะนำเครื่องลงไปติดตั้ง และบำรุงรักษา ครับ



รูปบน เป็นท่อระบายอาศจากถังต่างๆใต้พื้นระวางบรรทุก จำเป็นต้องมีทุกถัง แม้จะเป็นถังเปล่าๆ ไม่ได้ใส่อะไรไว้ก็ตาม ถังหรือห้องว่างที่ทำหน้าที่เป็นถังต่างๆ ในตัว ต้องมีท่อระบายอากาศ และมีช่องทางเข้าออกทุกถังครับ รูปกลาง เป็นฝาตะแกรงปิดช่องสูบน้ำเข้าภายในตัวเรือหรือ SEACHEST เพื่อระบาบความร้อนเครื่องยนต์หรือดับเพลิง หรือถ่วงเรือ ฯ ครับ รูปล่างคือ......หัวเรือครับ มองให้เป้นหัวเรือนะครับ



รูปบนเป็นโครงสร้างเก๋งเรือใช้เหล็กแผ่น เหล็กฉาก และเหล็กแบน หนา 4.5 มิลลิเมตร ครับ รูปกลางก็หัวเรือ มองจากด้านบนครับ ช่องกลมๆนั่น เจาะออกเพื่อลงไปเชื่อมโครงสร้างหัวเรือ แล้วทำฝาเปิด ปิด มันแคบมาก ต้องลงไปนอนเชื่อม แล้วก็ต้องตรวจแนวเชื่อมให้ดีด้วย รูปล่าง เครื่องยนต์มาถึงแล้วครับ ใช้เวลาหลายเดือนเหมือนกัน น่าจเกินครึ่งปี กว่าจะได้รับมอบเครื่องจักรใหญ่สองเครื่อง


รูปบนเป็นอุโมงใบจกร สองอุโมง รูปกลางคือระวางที่หัวเรือ  ตำแหน่งนี้จะติดตั้งห่วงที่ทำจากเหล็กแผ่น หนา 1 นิ้ว เพื่อทำประตูเปิด ปิด หัวเรือครับ รูปล่างคือ เก๋งเรือด้านหน้า


         ยกเครื่องจักรใหญ่ขึ้นเรือ



 ภาพของเรือโดยรวม เมื่อประกอบและเชื่อมเสร็จแล้ว จะเห็นสี แดงๆนั่นคือสีกันสนิมครับ ตอนนี้ กำลังพ่นทราย พื่อทำสีตัวเรือครับ น้องน้ำยังไม่มาแต่ใกล้วแล้วครับ...หึๆๆ



รูปบนกับรูปกลาง กำลังพ่นทรายและเก็บสี รูปล่าง นี่คือ ส้วมชักโครก สำหรับเรือโดยเฉพาะครับ แพงมากๆ ตัวนี้น่าจะ หมื่อนขึ้น




หลังจากพ่นทรายแล้วก็พ่นสีกันสนิมหนึ่งรอบ รูปล่างนี่ใส่เพลาและใบจักรเรี่บร้อยละ



ภาพนี้ขอย้อยไปหน่อยครับ วิธีเข้าแผ่นตัวเรือในส่วนต่างๆนั้นใช้วิธี ยกแผ่นเหล็กขึ้นไปทาบ ปรับให้เข้าที่แล้วจึง เล็มส่วนเกินออก อ้าวแล้วแบบเปลือกเรือไม่หรือ....มีครับ แต่วิธีนี้เร็วสุดนะตอนนั้นครับ ถ้าเป็นสมัยนี้ ก็สั่งโรงงานตัดมาเป็นชิ้นส่วนต่างๆ รอประกอบอย่างเดียวครับเรือลำเล็กอย่างนี้ท้องแบด้วย ง่ายกว่าเมื่อก่อนเยอะครับ



รูปบนคิอหัวเรือที่ยังไม่ได้ติดประูเปิด ปิด รูปกลางคือช่องสูบน้ำเข้าเรือหรือ SEACHEST 

   ภาพด้านล่างมาจาก https://www.quora.com/Is-it-true-that-a-field-of-seaweed-or-kelp-could-stop-a-submarine-in-its-tracks



จากภาพ นี้คือส่วนหนึงของ ไดอแกรม ในระบบสูบน้ำ ของเรือครับ ขออธิบายนิดนึง ภาพนี้คือ ไดอแกรมของระบบสูบน้ำจากภายนอกเข้ามาในตัวเรือ เพื่อ ใช้ระบายความร้อน ตรง SEA SUCTION นั่นก็คือช่องที่เจาะจากข้างตัวเรือใต้แนวน้ำตามที่ได้ออกแบบไว้ จะปิดด้วยตะแกรง SEA CHEST GATE ภายในตัวเรือหลังช่องที่เจาะไว้คือ SEA CHEST เป็นกล่อง น้ำจะออกจากกล่องนี้ผ่าน SEA VALVE หรือวาล์วเปิด ปิด จากยั้นจะไปผ่าน STAINER หรือ กรอง บ้านเราเรียกันติดปากว่า กรองทราย ขนาดเล็กหรือใหญ่ก็ตามขนาดท่อครับ จากตรงนี้ก็ไปที่ manifold หรือแท่นรวม วาล์ว 


ภาพด้านล่างมาจาก https://www.indiamart.com/proddetail/basket-strainer-20844820712.html
Basket Strainer
 นี่คือตัวอย่างของ STAINER ครับ มีหลากหลายลักษณะแต่ได้ผลเหมือนกันครับ



ภาพด้านล่างมาจาก https://www.brighthubengineering.com/marine-engines-machinery/41043-procedure-of-sw-pump-sea-chest-cleaning/

sea water pipeline branches
     manifold คือท่อสีขาวที่มีวาล์วแยกออกมาหลายๆตัวนั่นแหละครับ จากตรงนี้ก็จะแยกไปเข้า ปั้มน้ำ หรือถัง ฯ เพื่อระบายความร้อน หรือเพื่อใช้ในระบบดับเพลิง หรือถ่วงเรือ ฯ นั่นเอง แล้วแต่ผู้ออกแบบระบบครับ




        สองรูปในภาพบนคือการติดตั้งทางขึ้น ลง ที่หัวเรือครับ



   รุปบนซ้ายคือฝาถังน้ำมันในระวางบรรทุกด้าขวาของเรือครับ ส่วนรูปขวาบนและซ้ายล่างคือ ทาง ขึ้นลงที่หัวเรือครับ รูปขวา กลางและล่างคือการติดตั้งเพลาและใบจักรครับ



  ภาพชุดนี้ ตัวเรือได้ทำสีเสร็จแล้ว รูปล่างซ้ายกำลังตืดตั้งหางเสือครับ รูปกลางซ้ายคือทางที่เรือจะลงน้ำครับ ทำด้วยเหล็ก ไอบีมและใส่รางรถไฟไว้ด้านบน เริ่มตั้งแต่ใต้ท้องเรือจนไปสุดในคลองบางลี่ครับ ตอนนี้ระดับน้ำในคลองเริ่มสูงขึ้นทุกวัน แต่ยังชะล่าใจกันอยู่


  ตอนนี้น้ำเริ่มมาแล้วครับ ขณะเดียวกันก็ได้เร่งดำเนินการเพื่อที่จะเอาเรือลงน้ำ รูปกลางซ้าย คือทางลงห้องเครื่อง รูปกลางขวาคือวันทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำจะเห็นว่าน้ำไม่สูงเพราะลงไปเยอะแล้วครับ ส่วรูปล่างทั้งสองคือกำลังจัดการให้เรือหนีน้ำกันครับ



  วันที่ปล่อยเรือลงน้ำครับ


   ลงน้ำไปเรียบร้อยครับ มีคนเสีย เบียร์ไปหลายลัง.......


    ทีมผู้สร้างและผลงานครับ ในนี้ไม่ผมนะครับ เพราะผมเป็นคนถ่ายรูป...



  สองภาพนี้คือการจากลาคลองบางลี่ครับ เรือวิ่งผ่ามากลางทุ่งนา ฝ่าดงผักตบในรูปบนขวาสุด แล้วก็วิ่งไปติดถนนลูกรัง ดิ้นจนหลุด(มารู้ตอนน้ำลดแล้วว่า ถนนแหว่งไปเยอะครับ) มาถึงจุดนัดพบกับรถเครนและรถเทเลอร์ เพื่อเดินทางไปยังจังหวัดภูเก็ต นำเรือไปลงน้ำที่ท่าเรือน้ำลึกอ่าวมะขามครับ ในเวลาดึกของคืนนั้นมีโทรศัพท์เข้ามาที่อ๊อฟฟิส แจ้งว่า เรือไปเกี่ยวสายไฟฟ้าขาดในจังหวัดนครปฐม.......กว่าจะออกได้เกือบเช้า พวกผมออกกันตอนเช้าอีกวัน ไปแซงกันแถวๆชุมพร ฮาครับ เรือพวกเรา ละต้นไม้ไปเกือบตลอดทาง กิ่งไม้ ใบไม้ ขาดติดเก๋งเรือเต็มไปหมด


  รูปบนและกลางซ้าย คือห้องเครื่องครับ ส่วนรูปอื่นคือการทดสอบเรือครับ
หลังจากนั้นเอาเรือเข้าไจอดที่เกาะสิเหร่ เพื่อปรับปรุงระบบต่างๆให้สมบูรณ์ แล้วจึงเลื่อนมาจอดในโบทลากูน มารีน่าอีกประมาณสองอาทิตย์ เมื่อถึงวันที่ต้องนำเรือไปส่งที่ เกาะ..... จังหวัดกระบี่ เหตุไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้น........


 หน้าแปลนเพลาขาดครับ รูปขวาบน ตอนออกจากโบทลากูนมาได้ไม่นาน ผ่านเกาะอะไรสักอย่าง อยู่ๆ เรือก็หันไปด้านข้างกระทันหันแต่เครื่องยนต์ยังติดอยู่แต่มีเครื่องหนึ่งมีรอบสูงขึ้นมาก ดับเครื่อง ใส่หน้ากากดำน้ำสิครับ ภวนาว่าขอให้ใบจักรอยู่ครบด้วยเถิด โดดลงไป น้ำแรงมาก มุดลงไปท้ายเรือ ......เฮ้อ ค่อยยังชั่วหน่อย ใบจักรอยู่ครบแต่มันดันออกมาติดหางเสือ
 ขึ้นจากน้ำ ก็ลงไปในห้องเครื่อง ก็อย่างที่เห็นในรูปครับ สาเหตุเกิดจากการผลิตหน้าแปลนตัวนี้ แทนที่จะใช้เหล็กทั้งก้อนมากลึงให่ได้ขนาด แต่กลับไปใช้เหล็กสองชิ้นมาทำ เพื่อลดต้นทุน เพราะแนวเชื่อมไม่ดีก็เลยได้ผลอย่างนี้ครับ การแก้ปัญหาคือ กลับไปที่โบ๊ทลากูน ด้วยเครื่องยนต์เดียว แล้วถอดหน้าแปลนเพลาทั้งสองเครื่องออก เอาไปให้โรงกลึงในภูเก็ตทำใหม่ในขนาดเดิม แต่ใช้เหล็หชิ้นเดียวมากลึง หมดไปอีกหลายครับ....

ใบจกรที่เห็นเป็นสำรองครับ สองใบหมุนสวนครับ ใบนึงหมุนซ้าย อีกใบหมุนขวา วิธีการคือ เราไปปรับที่เกียร์ครับ เกียร์เรือแบบนี้พวกเราเรียกว่าเกียร์น้ำมันครับ เปรียบเหมือน มอเตอร์ไซด์ออโต้ยุคนี้แหละครับ เดินหน้าและถอยหลัง มีอัตราทดและรอบเท่ากัน เกียร์ของเรือ ไม่มี เกียร์หนึ่ง.....นะครับ มีแต่เกียร์เดินหน้ากับถอยหลังเท่านั้น การเร่งความเร็วก็ใช้วิธีเร่งรอบเครื่องยนต์ หรือก็คือเร่งเครื่องนั่นเองครับ



  นี่คือภาพสุดท้ายที่ได้ถ่ายไว้ครับ หลังจากที่ผมกับน้องคนนึงเป็นนายท้ายไปส่งเรือพร้อมกับคนของเจ้าของเรืออีกสองคน ออกจากภูเก็ตตอนเช้า ผ่านเกาะ พีพี ตอนเกือบเที่ยง ถึงที่หมายจังหวัดกระบี่ตอนเย็นพอดี ยังไม่ทันมืด ผมกับน้องก็นอนในเรือนั่นแหละครับ เช้ามาก็เริ่มทดสอบระบบสูบน้ำ(แทนน้ำมัน)ขึ้นฝั่งและขึ้นเนินไปไกลมาก แต่ก็ผ่านไปด้วยดี จนตอนบ่ายก็เสร็จสิ้นการส่งมอบเรือ ผมกับน้องก็กลับ กทม โดยนั่งรถจากกระบี่ไปตรังแล้วนั่งรถไฟกลับ กทม..........

เรือจำลอง, แบบเรือจำลอง, เขียนแบบเรือจำลอง

MEMBER

STATISTICS

หน้าที่เข้าชม94,957 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด77,778 ครั้ง
เปิดร้าน24 พ.ค. 2561
ร้านค้าอัพเดท25 ต.ค. 2568

CONTACT US

0879262908
ตะกร้า
( 0 )
▲
▼
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านVIN MODEL
VIN MODEL
จำหน่าย เรือโมเดล,สอน ออกแบบ เขียนแบบเรือโมเดล กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 0879262908
เบอร์โทร : 0879262908
อีเมล : r_pinsuwan@hotmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
ค้นหาสินค้าในร้านนี้
หรือค้นหาอย่างละเอียด
ค้นหาสินค้า
สินค้าที่ดูล่าสุด

{{pdata.name}}
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้
↑
TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม