เครื่องรับวิทยุ

         22 กันยายน 2567 2:58 น. สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้จะมาว่ากันด้วยเรื่อง เครื่องรับวิทยุกันครับ
            ภาพด้านล่างมาจาก
https://oakza1.blogspot.com/2017/12/blog-post.html

             จากไดอแกรมข้างบนและคำอธิบายก็จะบอกถึงการทำงานของเครื่องวิทยุแบบคร่าวๆทั้งในระบบ AM และ FM ในไดอแกรมก็ไม่ได้แตกต่างกันมากหรืออาจจะเหมือนกันด้้วยซ้ำ แต่อาจจะมี ขั้นตอนที่เพิ่มเข้ามบ้างในระบบ FM เพราะมันทำงานในความถี่ที่สูงกว่าคือ 88-108 MHz ในบ้านเรา แต่ในระบบ AM จะทำงานที่ความถี่ 535-1605 KHz ทั้งสองระบบ ต่างกันที่ช่วงความถี่ที่ใช้และวิธีการส่งสัญญาณวิทยุออกมา

       ลิ้งด้านล่างคือการอธิบายการส่งคลื่นวิทยุในระบ FM ครับ
https://docs.google.com/document/d/1tOz463OUlXPzc9G1zxseXWp0AdTkcM7tZ2qw-VK2vHw/edit

         จากอดีตที่เครื่องรับวิทยุ มีขนาดใหญ่โตก็ค่อยๆเล็กลงตามเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น แม้กระทั้งวิทยุที่มีเครื่องส่งและเครื่องรับอยู่ในเครื่องเดียวกันก็เริ่มมีใช้จากในกองทัพต่างๆ ก็เล็กลงมาเท่าขนาดฝ่ามือ และใช้กันแพร่หลายไปทั่วโลก อยู่ในทุกวงการ
       ที่นี้มาว่าถึงเรื่องร้อนๆในตะวันออกกลางตอนนี้ คือ เกิดการระเบิดของ เพจเจอ และวิทยุรับส่งแบบมือถือ กันมั่งว่ามันเกิดจากอะไร


                เรามาดูที่ไดอแกรมด้านบนกันก่อนครับ ปัจจุบัน อุปกรณ์เกือบทั้งหมดที่ทำหน้าที่ตามไดอแกรมนี้ มันได้ถูกลดขนาดและยัดเข้าไปอยู่ใน IC หรือ ship แค่ไม่กี่ตัวเท่านั้น ด้วยเทคโนโลยี่ที่พัฒนามาจนถึงวันนี้ และมันจะมีอุปกรณ์ตัวหนึ่งที่เรียกว Decoder ที่รับสัญญาณแล้วก็ถอดรหัสออกมาเป็นสัญญาณที่ต้องการเพื่อนำไปใช้กับอุปกรณ์อย่างอื่นต่อไป เช่น จอแสดงผล ทั้งบน เพจเจอและวิทยุมือถือ นี่ก็อาจจะเป็นผู้ร้ายตัวหนึ่งก็ได้ในความคิดของผมคนเดียวนะครับ
           ส่วนอีกวิธีหนึ่งก็คือการส่งสัญญาณเสียงความถี่สูงมากๆหรือดังมากๆ เข้าไปที่เครื่องรับเพื่อให้เครื่องรับทำงานหนักต่อเนื่องก็จะเกิดความร้อนขึ้นเอง เหมือนเราใช้คอมพิวเตอร์แล้วโดนไวรัส ทำให้ cpu ทำงานโด่งไปที่ร้อยเปอร์เซ็น เครื่องจะร้อนมากจนถึงไหม้ไปเลยก็มี โน๊ตบุ๊คเครื่องเก่าของผมก็โดนมาแล้วแต่ไม่ระเบิดเท่านั้นเอง
            แล้วมันระเบิดได้ไง อันนี้ผมไม่รู้จริงๆครับ แต่จะลองเดาดูก็ได้ จากคำสั่งที่เข้ามาในเครื่องรับทั้งสองชนิด จะไปจุดชนวนระเบิดที่ติดอยู่ในเครื่องนั่นแหละครับ ความยากในเรื่องนี้ มันมีอยู่อย่างเดียวเท่านั้นคือ จะเอาระเบิดเข้าไปติดในอุปกรณ์สื่อสารทั้งสองชนิดได้ยังไง เรื่องนี้ ถ้าตามความคิดผมก็คือ จำนวนอุปกรณ์ที่มากมายเป็นจำนวนหลายพันเครื่องหรืออาจจะถึงหมื่นเครื่องขึ้นไป หลังจากได้รับการสั่งซื้อก็คงส่งมอบเป็น ล๊อตๆไป เพียง หนึ่งหรือสองหรือสามพันเครื่องเท่านั้น เพราะมันก็ต้องใช้เวลาในการผลิตนั่นเอง แต่ช่องโหว่ใหญ่จริงๆมันไปอยู่ที่ ว้สดและอุปกรณ์ที่ใช้สร้างมันขึ้นมามากกว่า จริงอยู่ที่ว่า อุปกรณ์ที่ใช้สร้างมันมีอยู่ไม่กี่ชิ้น รวมทั้งสารเคมีต่างๆที่ใช้เคลือบกันความชื้น สี และ ฯลฯ แต่มันก็มาจากหลายที่หลายบริษัทที่ส่งเข้ามาประกอบเป็นตัวเครื่องสำเร็จขึ้นมานั่นเอง และอีวิธีหนึ่งก็คือ เมื่อการผลิตเสร็จพร้อมส่งของ แน่นอนว่า มันต้องเสร็จก่อนส่งมอบแน่ๆ นั่นคือเวลาที่มีเหลือเฟือในการจัดการเรื่องนี้ได้อย่างไม่ยากแม้ว่าจำนวนจะมากมายก็ตาม ยิ่งซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายยิ่งแล้วใหญ่ มันจะซับซ้อนก็อีตรงเรื่องพวกนี้ปหละครับ สืบไปสืบมาก็้จะไปเจอทางตัน ไปเจอบริษัทอะไรก็ไม่รู้ ที่อยู่ก็จริงแต่สถานที่ไม่มีจริงอะไรประมาณนั้น
                ส่วนการส่งสัญญาณไปสั่งให้มันระเบิด อันนี้ เรื่องง่ายนิดเดียวในสมัยนี้ครับ โดยเฉพาะถ้าทำโดยกองทัพ เอาของเพจเจอก่อน ไอ้เจ้าตัวนี้จะรับสัญญาณมาจาก คอลเซ็นเตอร์ของแต่ละเครือข่าย มีคลื่นความถี่ที่ใช้แน่นอนตายตัว เหมือนโทรศัพท์มือถือ หรือ ทีวี วิทยุ นั่นแหละครับ ระดับกองทัพเขาสแกนหาไม่ยากเลย แม้จะเปลี่ยนคลื่นโดดไปมา ก็ไม่รอด เพราะมันใช้คลื่นความถี่ในเชิงพานิชน์ซึ่งมีข้อบังคับอยู่พอสมควร
               ส่วนวิทยุรับส่งขนาดเล็ก ส่วนใหญ่ใช่ความถี่ในย่าน VHF แม้จะมีช่วงความถี่ที่สูงและกว้างแถมยังมีชุดเข้าและถอดรหัสอีกต่างหาก แต่มันก็ไม่ยากเลยที่จะสแกนหาความถี่ที่ใช้ ถึงแม้หลายๆเครื่องในกลุ่มที่ระเบิด จะใช้ช่องความถี่ที่ไม่เหมือนกันในแต่ละกลุ่มคนที่ใช้งานอยู่ก็ตาม ผู้ที่ส่งสัญญาณไปจุดระเบิกเขาก็ไม่ได้ส่งไปแค่คลื่นเดียวหรือสองคลื่นเท่านั้น สมัยนี้มันส่งเป็นดาวกระจายครอบคลุมช่วงความถี่ของ VHF ได้ทั้งหมดมาตั้งนานแล้วครับ เพราะปัจจุบัน มันย่อและยัดทุกอย่างลงไปใน ship ได้แล้วนั่นเอง
                สงครามสมัยใหม่เขารบกันด้วย คลื่นความถี่ของวิทยุ หรือที่เรียกกันว่า RF นั่นแหละครับ อ้อ มันก็รวมไปทุกคลื่นความถี่ที่เป็นแม่เหล็กไฟฟ้านั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น ไมโครเวฟ หรือ UHF หรือความถี่ที่ใชในเรด้าห์ด้าต่างๆทั้งที่อยู่บนเรือและเครื่องบินรบหรือจรวดนำวิถีด้วยเรด้าห์ ฯลฯ ก็ตาม
            นี่ยังดีที่ระเบิดมันไม่ได้ติดอยู่กับแบตเตอรี่นะครับ ไม่งั้นคนที่พกพาไปด้วยตัวขาดสองท่อนแหงๆ
            ความจริงแนวคิดติดระเบิดไปกับสิ่งของเครื่องใช้แล้วสั่งให้มันระเบิดทีละเครื่องหรือทั้งหมด มันมีมาตั้งนานแล้วครับ ทั้งในภาพยนต์และนิยายสายลับต่างๆ ผมจำได้้ว่า ในหนังสือการ์ตูนเรื่อง AREA 88 ก็ใช้มุขนี้เหมือนกัน ตอนที่พระเอกกับเพื่อน ขับ F18 หนีออกมาจากเรือบรรทุกเครื่องบินทะเลทรายของฝ่ายต่อต้าน พอหนีมาลงที่ฐานของตัวเองได้ แม๊คคอย พ่อค้าอาวุธ ได้เอาไปรื้อจนเป็้นชิ้นๆวางเรียงอยู่ในโกดัง แต่มันมีกล่องแปลกๆอญุ่เครื่องละกล่อง ที่ตาลุงแม๊คคอย ไม่รู้ว่าคืออะไร ใส่มาทำทำไม จนสุดท้ายถึงได้รู้ว่ามันเป็นระเบิดทำลายตัวเองที่ติดเพิ่มเข้าไปนั่นเอง
             ความเห็นทั้งหมดของผมในบทความนี้เป็นแค่ความเห็นเท่านั้นครับ เรื่องจริงจะเป็นอย่างไรผมก็ไม่ทราบครับ และความรู้ทีผมใช้ในการแสดงความเห็น ส่วนหนึ่งก็เอามาจาก อินเตอร์เนต และอีกส่วนหนึ่งก็เอามาจากการเรียน ปวช ปีสอง เรื่องเครื่องรับวิทยุ เมื่อปี พ.ศ. 2525 ครับ
            เทคโนโลยี่เป็นเรื่องสนุกครับ แต่การทำสงครามด้วยเทคโนโลยี่ไม่สนุกแม้แต่น้อย ขอภวานาให้สงครามและการสู้รบต่างๆที่เกิดอยู่ตอนนี้ไม่ว่าใกล้หรือไกลบ้านเรา ขอให้เลิกและจบลงในเร็ววันด้วยเถิด
              ราตรีสวัสดิครับทุกท่าน ขอให้มีสุขภาพดีกันถ้วนหน้า
5:29 น.
 
.............................................................................................................................