ซ่อมดาดฟ้า และการกันน้ำในเรือ

               2 สิงหาคม 2567 1:53 น. สวัสดียามดึกครับทุกท่าน หมดไปอีกหนึ่งเดือน คืนนี้ฝนตกมาเป็นระยะตั้งแต่ตอนค่ำๆแล้ว หนักบ้างเเบาบ้าง อากาศดีน่านอนเลยทีเดียว
               เมื่อตอนเกือบเที่ยงของตอนกลางวันหรือเมื่อวานนี้ พัสดุปะดาดฟ้าที่สั่งไปก็มาถึง เป็นเทปกาวสีเงินหนาๆ หน้ากว้าง สองนิ้ว ยาวม้วนละห้าเมตร สั่งไปสองม้วน รวมค่าส่งก็ หนึ่งร้อยกับอีกเจ็ดบาท พอดีตรงที่ว่า ตอนนั้นท้องฟ้าไม่มีแดดแต่ก็ร้อนเอาเรื่อง ก็ต้องรีบแล้วครับ เกิดบ่ายๆฝนตกมาจะซ่อมดาดฟ้าไม่ทัน

             เทปกาวที่ว่าครับ เอามาใช้ก่อนหนึ่งม้วนน่าจะพอ


                 ทั้งสองภาพด้านบนคือสภาพของปัญหาที่ผมหาไม่เจอมาตั้งแต่สร้างบ้านหลังนี้เสร็จเมื่อหลายปีก่อน แนวหมายเลข1 คือผนังที่ตั้งฉากกับพื้น คือปัญหาที่ว่าครับ ช่างเขาใช้วิธีประกอบฝาผนังหลังจากปูพื้นดาดฟ้าเสร็จแล้วอุดด้วย ซิลิโคนระหว่างแนวผนังที่ตั้งอยู่บนพื้นดาดฟ้านั่นเอง แนวหมายเลข2 คือแนวต่อแผ่น ผมปะด้วยไฟเบอกลาสมาหลายปีแล้ว และก็เช่นกัน แนวหมายเลข3 ที่เป็นเส้นประ ผมก็ใช้ไฟเบอกลาสปะแนวต่อแผ่นด้วยเหมือนกัน เหมือนเดิม ช่างเขาใช้วิธีปูพื้นลงบนโครงดาดฟ้าก่อนแล้วยิงน๊อตเกลียวปล่อยยึดไว้ เสร็จแล้วก็ยิงซิลิโคนใส่ร่องระหว่างแนวต่อแผ่นพื้นสำเร็จรูปที่นำมาทำพื้นดาดฟ้า
              ผลที่ได้ก็คือ ฝนแรกของปีนั้น ไม่ต้องรอนานเลยครับ น้ำฝนรั่วลงมาเหมือสายน้ำตกหลายสายตามแนวต่อแผ่นทุกแนว ตอนนั้นจำได้ว่าเป็นตอนกลางคืน ประมาณสามทุ่มมั้งครับ วุ่นวายเลยทีนี้ น้ำเต็มห้องเลย หากาละมัง ถัง หม้อเท่าทีมี มารองน้ำ เอาเสื่อน้ำมันมาทำเป็นกรวยขนาดใหญ่ รองน้ำที่ไหลลงมาอย่างมากมาย ดีมี่ฝนตกไม่นาน ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงได้ เละเทะไปหมด
              เช้ามาผมก็ไปหาซื้อวัสดุทำไฟเบอกลาส ทั้งใยแก้วและเรซิ่น นำมาปะรอยต่อแผ่นที่พื้นดาดฟ้าทุกแนว ก็ช่วยได้เยอะ แต่พอฝนตกมา ก็ยังมีหยดตรงโน้น ตรงนี้ อีหลายจุด ไล่ไปไล่มา ก็มาเห็นอีกว่า น้ำฝนไหลย้อนเข้ามาใต้พื้นดาดฟ้านั่นเอง แล้วก็เข้ามาตามเหล็กกล่องที่ใช้ทำโครงสร้าง หยดไปทั่วห้อง เพราะที่ขอบของพื้นดาดฟ้า ไม่มีรางน้ำนั่นเอง แก้ปัญหาด้วย ไฟเบอกลาสอีกเหมือนเดิม โดยทำเป็นแผ่นกว้างประมาณสามนิ้ว แล้วนำมาทำเป็นม่านที่ขอบของพื้นดาดฟ้าทั้งหมด ก็แก้ปัญหาไปได้อีกเรื่อง ทั้งใช้เวลาสังเกตและซ่อมไป ประมาณ สองอาทิตย์ เพราะฝนมาไม่บ่อยนัก
                หลังจากนั้นเมื่อฝนตกไม่แรง ลมไม่มาก ก็จะไม่มีน้ำหยดลงมาอีก แต่พอฝนตกหนักๆ หรือมีลมแรงๆเมื่อไหร่เป็นได้เรื่อง ผมเองช่วงนั้นก็ไม่ค่อยว่างซะด้วย เลยแก้ปัญหาโดยใช้วิธเอากาละมัง กับถังไปรองน้ำไว้ มีสามจุดใหญ่ๆ ซึ่งพยายามสังเกตุเท่าไหร่ก็ ไม่เห็นว่าน้ำฝนเข้ามาได้ยังไง ก็เลยปล่อยไว่ก่อน หลายปีเลยครับ ตอนแรกนึกว่าแนวไฟเบอกลาสที่ปะไว้มันเสื่อมสภาพ เพราะหลายปีแล้ว ก็เอามาปะเพิ่มเข้าไป และเอาสีขาวมาทาทับไว้เพื่อลดความร้อน ช่วยได้เยอะครับ แต่ อาการน้ำหยดอยู่สามจุดก็ยังไม่หาย  บางวันฝนหนักมาก ก็มีน้ำหยดลงจากวงกบประตู อีกต่างหาก มันมาจากไหนฟะ หาตั้งนานกะว่าจะรื้อผนังดูแล้วด้วยซ้ำ เป็นอย่างนี้มานานหลายปีครับ เสียชื่อคนทำเรือจริงๆ แค่ดาดฟ้ารั่วก็หาไม่เจอแก้ปัญหาไม่ได้ 55555555

                    ในวงแดงคือแนวที่น้ำฝนหยดลงมา และมีอย่างนี้อีกสองจุดครับ
                  จนเมื่อสามวันที่แล้ว ยอมตัดฝ้าเพดานในห้องเพื่อโผล่หัวขึ้นไปดูแนวขอบผนังที่ตั้งอยู่บนพื้นดาดฟ้าก็เจอเข้าจังๆเลย มีน้ำฝนไหลย้อนเข้ามาตลอดแนวเลยครับ แต่ที่มันไม่รั่วลงพื้นก็เพราะพื้นดาดฟ้าหนามากนั่นเอง น้ำฝนก็เลยไหลลงไปที่แนวต่อแผ่นแล้วก็ไหลตามโครงสร้างลงไปตามความลาดของดาดฟ้าซึ่งมีองศานิดเดียว มันก็เลยไปหยดตรงที่น้ำมันออกได้นั่นเอง  สามจุดใหญ่ๆ เละเทะมาหลายปี 
                  วันนี้ได้โอกาศละครับ จัดการเรียบร้อยดังภาพข้างล่าง

                   ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ แต่กาวมันติดมือเหนียวหนืดเลยทีเดียว ล้างสบู่ก็ออกครับ เสร็จแล้วทีนี้ก็รอผลว่าจะเป็นอย่างไร พอตกค่ำมาก็รู้เรื่องแล้วครับ ฝนมาทั้งหนักทั้งเบาทั้งลม เป็นระยะ ก็นานพอสมควร ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ไม่มีน้ำรั่วลงมาอีกเลย ทีนี้ได้นอนหลับอย่างสบายใจซะที ไม่รู้จะขำหรือโมโหตัวเองดี หาอยู่ได้เป็นปี
                   สาเหตุมาจากสองอย่างในกรณีนี้ครับ คือ หนึ่ง ตัวซิลิโคนเอง และสอง แผ่นพื้นและผนังเป็นแผ่นสำเร็จรูปคล้ายไม้เฌอร่า วัสดุสองชนิดนี้ แม้ดูภายนอกเหมือนจะติดแน่นกันดี สามารถกันน้ำไม่ให้ซึมเข้าไปอีกฝั่งได้ แต่ในความเป็จริง ซิลิโคนมันร่อนออกมาจากแผ่นพื้นและผนังเป็นจุดๆ ทั่วไปหมด คุณสมบัติของซิลิโคนที่ติดแน่นได้ดีกับอลูมีเนียมและกระจก มันไม่ได้ผลกับพื้นและผนังสำเร็จรูปเลยครับ มันพร้อมที่จะร่อนหลุดออกได้ทุกเวลา เพราะพื้นผิวของพื้นสำเร็จรูปที่ดูเหมือนเรียบเนียนนั้นความจริงมันเป็นรูพลุนเล็กๆมันไม่สามารถยึดติดกับอะไรได้ด้วยตัวมันเอง เหมือนกระจกกับซิลิโคน ตอนใช้้คัตเตอร์ตัดและลอกออกมาก็ดูเหมือนจะติดแน่นเหนียวดีอยู่ แต่มันไม่ใช่ครับ มันร่อนและขาดๆเป็นช่วงๆเท่านั้นเอง
                 อ้าว แล้วไอ้เทปกาวเหนียวหนืดนี่จะเอาอยู่ไหม ดูจากสภาพที่แปะไปตรงไหนแล้วจะเอาออก มันเหมือนกับการดึงหมากฝรั่งออกจากเก้าอี้ยังไงก็อย่างงั้นเลยครับ และนี่ก็ได้รับการทดสอบแล้วว่ารอดจริงๆ แต่จะรอดได้อีกนานสักเท่าไหร่เท่านั้นเอง
                ความจริงปัญหานี้จะไม่เกิดเลย ถ้าตอนที่สร้างบ้านหลังนี้ ได้ช่างที่ดีกว่านี้ เพราะเกิดปัญหาขึ้นก่อนที่จะมุงหลังคาทั้งหลังซะอีก ก็ปัญหาแบบเดิมๆครับ เบิกไปแล้ว ก็หาย ส่งช่างมาทำแค่สองคนมั่ง หายไปมั่ง ฯ สุดท้ายต้องแจ้งตำรวจ พาไปคุยกันที่โรงพัก หลังจากตกลงกันได้ ผมก็ไม่ไปยุ่งอีกเลย เดี๋ยวมันเบี้ยวอีก ทำไงก็ได้ให้บ้านเสร็จ จะได้จบๆกันซะที ของดีราคาถูกไม่มีครับ ผมก็ไม่มีเสียงอะไรด้วยเพราะไม่ได้เป็นคนออกเงิน 5555555555 
              วิธีที่ถูกต้องในการใช้พื้นสำเร็จรูปอย่างนี้ทำพื้นดาดฟ้าก็คือ ถ้าจะใช้ซิลิโตน หรือแผ่นยางมาอุดรอยต่อแผ่น ต้องวางแผ่นยางหรือฉีดซิลิโคนลงบนเหล็กโครงสร้างพื้นดาดฟ้า แล้วจึงวางแผ่นสำเร็จรูปลงไปยิงด้วยน๊อตเกลียปล่อยทะลุซิลิโคนหรือแผ่นยางลงไปยึดกับโครงสร้างที่เป็นเหล็กกล่อง เท่านี้น ปัญหาที่ว่ามาก็จะไม่เกิดเลย เพราะมีแรงกดจากน้ำหนักของพื้นและน๊อตที่ยึดไว้ ไม่ว่าโครงสร้างเหล็กจะขยายหรือหดตัวด้วยอุณหภูมิภายนอก แผ่นยางหรือซิลิโคนก็ยังถูกอัดแน่นอยู่กับพื้นและเหล็กโครงสร้างอยู่ดี ด้วยความยืดหยุ่นของแผ่นยางและตัวซิลิโคนเองก็จะถูกกดทับอยู่อย่างั้น แม้จะไม่ได้ยึอติดกับทั้งสองวัสดุเลยก็ตาม มันจะทำหน้าที่เหมือน ปะเก็น ฝาสูบนั่นแหละครับ แต่นี่พวกเล่นเอาไปป้ายไว้อย่างนั้นจะไปเหลืออะไรล่ะครับ
               ที่เอาเรื่องนี้มาเล่าค่อนข้างยาวก็เพื่อจะบอกว่า ในเรือก็มีการใช้ ปะเก็น มากมาย และอยู่ในส่วนที่สำคัญทั้งนั้นครับ เช่น ขอบประตูกันน้ำต่างๆ ฝาปิดทุกถังทุกชนิด พื้นที่ส่วนไหนที่ต้องการกันน้ำเข้า แต่คนสามารถเข้าออกได้ ก็ได้เจ้าตัว ปะเก็น ที่ทำด้วย แผ่นยางนี่แหละครับ เป็นส่วนสำคัญที่สุด ไม่งั้นมันจะไม่สามารถกันน้ำเข้ามาได้เลย   

                 ภาพด้านบนนี้คือแบบตัวอย่างเรือ ที่มี ช่องทางลงไปในตัวเรือที่อยู่ภายนอกเก๋งเรือครับ หรือที่เราเรียกกันว่า manhole ครับ มีรายละเอียดดังภาพข้างล่างครับ
                   ในรูป detale 3 ที่ลูกศรหมายเลข 5 ชี้ไว้นั่นแหละครับ RUBBER ตัวสำคัญเลยทีเดียว ถ้าไม่มียางตัวนี้ น้ำทั้งหลายที่ซัดสาดขึ้นมาบนพื้นดาดฟ้า มันก็จะซึมหรือ หยด หรือแม้แต่ไหลเข้าไปในตัวเรือได้ทุกที่เลยทีเดียว แม้จะเข้าไปทีละน้อย แต่ถ้าเป็นถังน้ำมัน หรือถังน้ำจืด ก็จะสร้างความเสียหายอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียวครับ และถ้าดูตามแบบ ยางตัวนี้จะถูกกดทับด้วยแผ่นเหล็กที่ทำเป็นฝา และถูกอัดด้วยน๊อตขนาดใหญ่ถึงยี่สิบตัว ด้วยแรงอัดขนาดนี้ จะทำให้ยางเกิดการยุบตัวลงในบริเวณที่ถูกฝาแผ่นเหล็กกดลงด้านหนึ่ง กับขอบของช่องลงอีกด้านหนึ่ง และด้วยคุณสมบัติของยาง ก็ยุบตัวลงและไปเบ่งออกในที่ๆไม่โดนกดทับอัดเข้ามาในขอบทั้งบนและล่างอีก ทำให้น้ำไม่สามารถเข้าไปได้แม้แต่น้อย อย่าว่าแต่น้ำเลยครับ แม้แต่อากาศก็ยังเขาไปไม่ได้อีกด้วย
                   เขามีวิธีทดสอบว่าถังต่างๆในเรือที่มีฝาเปิดปิด มันจะรั่วหรือไม่ก็มีอยู่สองวิธหลักๆ ก็คือ 1 ใส่น้ำเข้าไปโดยตรง แล้วก็ไปไล่ดูตามแนวเชื่อมอีกด้านหนึ่งว่ามีน้ำหรือฟองน้ำผุดออกมาหรือไม่ วิธีนี้ออกบ้านๆไปหน่อยแต่ก็พอใช้ได้ในกรณีเร่งด่วน ส่วนอีกวิธีหนึ่งก็คือ ปิดช่องทั้งหมด ทั้งmanhole และช่่องระบายอากาศ แล้วอัดลมเข้าไปในถังให้ได้ความดันที่กำหนดไว้ แล้วก็ปิดวาวล์ลม ทิ้งไว้อย่างนั้นตามเวลาที่กำหนด ถ้าความดันไม่ตกก็เป็นอันว่าผ่าน (ในรายละเอียดของการทดสอบ มีอุปกรณ์ประกอบเยอะกว่านี้ครับ ที่ว่ามาพอให้นึกภาพออกเท่านั้น)
                  ขากการซ่อมดาดฟ้าก็มาจบลงที่ manhole คงได้ประโยชน์กันบ้างไม่มากก็น้อยล่ะครับ
                   ตีสี่กว่าๆแล้ว อรุณสวัสดิ์ครับทุกท่าน ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงทุกท่านครับ
4:13
                 

......................................................................................................