5 มิถุนายน 2567 23:23 น. สวัสดียามดึกครับทุกท่าน เมื่อกลางวันลืมไปเรื่องหนึ่งครับ ที่จริงก็คิดไว้แล้วว่าจะพิมพ์ลงไปด้วยแต่ ลืม ครับ แก่แล้วก็งี้แหละครับ
เรื่องที่ว่าก็คือ การเรียนการสอนในสถานศึกษาสำหรับผู้ที่เรียนสายช่างตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากเรื่องของเทคโนโลยี่ที่นักเรียนตามไม่ทันแล้ว ก็ยังมีอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นก็คือ สายการสั่งงานในการทำงาน
ไม่ว่าจะเรียนสายไหนจบมาก็ต้องออกไปทำงาน บ้านใครเป็นเจ้าของกิจการก็จะเจอสภาพแวดล้อมอย่างนึง แต่ส่วนใหญ่ก็จะต้องไปเริ่มที่การเป็นลูกน้องหรือผู้รับคำสั่งนั่นเอง เรื่องนี้ ในสถานศึกษาสอนกันยากครับ แม้ว่าจะจับกลุ่ม แบ่งกลุ่มกันทำงานก็ตาม เพราะความรู้สึกมันไม่ได้ไงครับ เรียนห้องเดียวกัน เท่ากัน อาจจะเก่งหรือฉลาดไม่เท่ากัน แต่ก็อยู่ห้องเดียวกัน ชั้นเดียวกัน อยู่ๆเพื่อนได้เป็นหัวหน้ากลุ่มซะงั้น และคนที่ได้เป็นหัวหน้ากลุ่ม ก็ไม่ได้ฉลาดหรือรู้ไปหมดซะทุกเรื่อง ดังนั้นเวลาได้รับคำสั่งจากหัวหน้าหรือก็คือเพื่อนร่วมห้องนั่นแหละ มันจึงมีกำแพงบางๆที่มองไม่เห็นกั้นอยู่ อาจจะต้องทำแบบทำใจให้มันพ้นๆไปก็ได้ เนื้องานที่ได้ก็อาจจะไม่สมบูรณ์เท่าที่ควรจะเป็น บางคนทำมาก บางคนทำน้อย ยิ่งกลุ่มไหนมีผู้หญิงด้วยนี่สบายเลยสำหรับเหล่าชายชาตรีทั้งหลาย สภาพที่นักเรียนต้องเจอก็คือ คำสั่งของครูหรืออาจารย์ผู้สอนถือเป็นเด็ดขาด เท่านั้นเอง
ดังนั้นจึงมีเรื่องของการ ฝึกงาน เกิดขึ้น เพื่อให้นักเรียนสายช่างได้พบเจอกับสถานการณ์ที่ถูกสั่ง จากหัวหน้างาน หรือผู้ที่มีตำแหน่งเหนือกว่า หลายๆคน ประมาณว่า ออกไปใช้ชีวิตในการทำงานนั่นเอง ต้องฟังทั้งคำสั่งและต้องรับผิดชอบงานที่ได้รับมาทำคนเดียว เพราะเอาเข้าจริงๆ ในชีวิตจริงของการทำงาน คำว่า "งานกลุ่ม" ไม่มีอยู่จริงนะครับ มีแต่งานที่เราต้องทำและรับผิดชอบคนเดียว ถ้าเราทำไม่ได้ หรือทำไม่เสร็จตามเวลา งานในส่วนอื่นๆที่คนอื่นเขาทำก็ไม่สามารถเริ่ม หรือทำต่อไปได้ กลายเป็นคอขวดในสายงานนั้นๆไป
ที่ผ่านมาหลายๆท่านที่ผ่านการเรียนในสายช่างหรือสายวิศวกรรมมาก็ต้องผ่านการฝึกงานกันทุกท่าน ก็อาจจะเจอประสบการณ์ที่ตัวเองคิดว่า อะไรฟะ มาฝึกงานนะ ไม่ได้มาชงกาแฟ หรือมาถ่ายเอกสาร ฯลฯ ซะหน่อย หรือบางท่านอาจจะได้เป็นแค่ลูกมือ คอยหยิบเครื่องมือเครื่องใช้ให้กับช่าง ตลอดช่วงการฝึกงาน บางคนก็อาจจะได้ขันน๊อต ตัดเหล็ก เขียนโค๊ด เล็กๆน้อยๆ ซึ่งในความรู้สึกของเรามันเป็นอะไรที่เสียเวลาและไร้สาระเอามากๆก็ได้
ในฐานะที่ท่านเป็นนักศึกษาหรือนักเรียนฝึกงาน ท่านรับผิดชอบไม่ไหวหรอกครับต่อการกระทำที่ผิดพลาดในหน่วยงานหรือบริษัทที่ท่านไปฝึกงาน ถูกสั่งให้ชงกาแฟ ถ่ายเอกสาร ฯลฯ ดูเหมือนไร้สาระก็จริงครับ แต่ลองคิดดูให้ดีนะครับ ว่ามันแฝงอะไรอยู่มากมายเลยทีเดียว ก็เหมือนการมอบหมายงานให้ท่านไปทำนั่นแหละครับ ไม่ต่างกันเลย ชงกาแฟมันจะไปเหมือนงานที่เรียนมาได้ไง เอางี้ ถ้าถูกสั่งให้ไปชงกาแฟท่านจะทำอย่างไรครับ คนส่วนใหญ่ก็จะรีบไปชงกาแฟมาให้ใช่ไหมครับ แต่คุณจะรู้ได้ไง ว่าคนสั่งเขาต้องการกาแฟอะไร ร้อนหรือเย็น ใส่น้ำตาลหรือไม่ใส่ ผงกาแฟกี่ช้อนชา น้ำตาลกี่ช้อนชา น้ำร้อนขนาดไหน ฯ นี่สั่งแค่คนเดียวนะครับ ถ้าสั่งพร้อมกันสักสี่คน มันจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นวิธีป้องกันความผิดพลาด คุณก็ต้องถามแต่ละคนว่าต้องการกาแฟแบบไหนใช่ไหมครับ การสั่งงานก็เหมือนกันนั่นแหละครับ ถ้าเขาสั่งานมาแล้วคุณไม่รู้อะไรเลยแล้วยังไม่ถามผู้สั่งอีก นั่นก็คือหายนะแล้วครับ คุณอาจจะคิดว่า มาถามเพื่อนข้างๆก็ได้ ฝันไปเลยครับ ทุกคนทำงานได้เงินตอบแทนเหมือนกัน มีเหตุผลอะไรที่เขาต้องมาเสียเวลามาบอกคุณว่าอะไรทำอย่างไร นี่เป็นเรื่องจริงที่ผมเจอมากับตัวเอง อาจจะบอกว่า ก็ผมไม่มีใครคบ ก็อาจจะถูกครับ แต่ก็เป็นข้อเตือนใจได้เป็นอย่างดีว่า งานของเราต้องทำเอง อย่าไปหวังพึ่งคนอื่นเด็ดขาด
ดังนั้นการฝึกงานก็คือการเข้าสังคมของคนทำงานนั่นเองครับ คุณจะถูกลองภูมิ คุณจะโดนดูถูกเมื่อคุณทำพลาดหรือทำไม่ได้ ทั้งๆที่บางครั้งยังไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำไป และแน่นอนว่าคุณจะถูกสั่งให้ทำในเรื่องที่คุณคิดว่ามันไร้สาระและไม่เกี่ยวกับงานเลย แต่ความจริงก็คือ ทั้งหมดที่คุณพบเจอในการฝึกงานมันเป็นเรื่องที่คุณต้องเจอเมื่อคุณเรียนจบและเริ่มเข้าทำงานเป็นน้องใหม่นั่นเองครับ
บางท่านอาจจะแย้งว่า พี่ที่เคยไปฝึกงานใจดีจะตาย สอนทุกอย่างเลย นั่นคือถ้าหัวหน้าเขาไม่สั่ง ก็ถือว่าคุณโชคดีมากๆครับ ซึ่งน้อยมากที่จะเจออย่างนั้น อาจจะเป็นเพราะเขารู้ว่าคุณเป็นลูกใครก็ได้ครับ หรือไม่ก็อาจจะเป็นน้องฝึกงานคนสวยน่ารักอะไรประมาณนั้น ฯลฯ 55555555
งานที่ดีเงินที่ดี ใครๆก็อยากไปทำครับ แต่มันขึ้นอยู่กับตัวคุณเองว่ามีความสามารถพอที่จะได้รับมันหรือเปล่าเท่านั้น นอกจากคุณจะเป็นลูกเจ้าของกิจการอันนั้ก็ว่าไปอย่างครับ
เสริมซะยาวเลยกะว่าจะมาแบบสั้นๆซะหน่อย งั้นก็ ราตรีสวัสดิ์ครับทุกท่าน ขอให้มีสุขภาพดีกันถ้วนหน้าครับ
6-6-67 0:22 น.
....................................................................................................