แม่น้ำเจ้าพระยา ๒

6 ปีที่ผ่านมา
โดย เจ้าของร้าน

          
                      สวัสดีครับ วันนี้ 13 พ.ย. 2561 ต่อจากบทความที่แล้ว ผมพาท่านขึ้นเรือด่วนเจ้าพระยา จากท่าเทเวศร์ ล่องลงมา ผ่านท่าเรือและสถานที่ต่างๆ เหมือมีคนกล่าวไว้ว่า การเดินทางให้ถึงที่หมายเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่เหตุการณ์และสถานที่ระหว่างทางที่ได้พบเจอก็สำคัญไม่แพ้กัน......
                  ในแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มจาก นครสวรรค์ จนกระทั่งออกปากอ่าวไทย ที่สมุทรปราการ ได้ถูกใช้เป็นเส้นทางสัญจร และขนส่งสินค้ามายาวนาน นานมากๆๆ โดยใช้เรือประเภทต่างๆ ตั้งแต่อดีต ก็เป็นเรือแจว เรือพาย เรือใบ ทั้งเล็กและใหญ่ จนเข้าสู่ยุคที่ใช้เครื่องยนต์เป็นต้นกำลังขับเคลื่อน อย่างในปัจจุบัน นอกจากเครื่องยนต์ที่เข้ามาแทนแรงคน แรงลมแล้ว สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างมากของเรือก็คือ รูปร่างหน้าตา ขนาดที่ใหญ่ขึ้น และวิ่งได้เร็วขึ้น

     ภาพจาก blogs.yahoo.co.jp
      
        1950     


     1959



          1963


      1964



     1977



       1972



          1982



             ภาพจาก board.postjung


         อยุธยา พ.ศ.2500


      รูปเก่ากว่านี้หายากมากๆครับ ก็เอามาจากในเนตทั้งนั้น ตามลิ้งค์เหนือภาพเลยครับ ต้องขอบคุณหลายๆท่านที่ รวบรวมภาพต่างๆเหล่านี้มาลงใน อินเตอร์เนต ให้พวกเราได้ชมกัน ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยด้วยครับ ทักท้วงกันได้ 
         ในปัจจุบันนี้เรือต่างๆที่เห็นในภาพด้านบนทั้งหมด ก็คงไม่มีอยู่ให้พวกเราได้เห็นตัวเป็นๆกันแล้ว
          เรากลับสู่ปัจจุบันกันดีกว่าครับ แม่น้ำเจ้าพระยาช่วงที่ไหลผ่าน กรุงเทพฯนั้นจะมีความกว้าง ประมาณ สองร้อยเมตรกว่าๆนะ ลองวัดระยะใน google earth

         จะกว้างมาหน่อยก็บริเวณใกล้ๆสะพานพระราม๙ ความหนาแน่นของการจราจรทางน้ำช่วงที่ผ่าน กรุงเทพ นี้ค่อนข้างหนาแน่น โดยเฉพาะ ช่วงจากท่า รถไฟ ไปถึงแถวๆ ท่าสาธร เพราะมีทั้งเรือ ทัวร์รับนักท่องเที่ยว เรือโดยสารข้ามฟาก เรือด่วน เรือโยงมาที พวงละสามถึงสี่ลำ เรือภัตาคาร ฯ

       เรือในรูปเป็นของ กฟผ เป็นเรือท้องแบนสำหรับ บรรทุกของ ไม่มีเครื่องยนต์สำหรับขับเคลื่อน แต่ที่ไม่เห็นเรือลากก็เพราะว่า เขาใช้เรือมาดันที่ท้ายเรือครับ อายุเรือน่าจะเกือบๆสามสิบปีแล้วครับ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะต่อแถวจังหวัดปทุมฯ นะครับ






             ลำนี้เป็นเรือข้ามฟากน่าจะจากท่าเตียน ไปวัดกัลยานะครับถ้าจำไม่ผิด........เฮ้อ ข้อมูลไม่แน่นแล้วยัง ก็เอาเป้นว่าเล่าสู่กันฟังละกันครับ ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง.....อิอิ



        ภาพข้างล่างนี้เป็นเรือบรรทุกปูนซีเมนต์ผงครับ



         อย่างนี้ก็มีครับ นานๆมาที




            เรือโยงมาเป็นพวง ที่เห็นนี้ยังไม่ได้บรรทุกอะไรครับเพราะเรือลอยขึ้นมาสูงมาก น่าจะกินน้ำลึกไม่ถึงเมตร แต่พอบรรทุกเต็มที่เรือก็จะจมน้ำไปประมาณสามเมตรกว่าๆครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของเรือด้วยว่าสูงเท่าไร




        นี่ก็สารพัดเรือเลยครับ มีทั้งเรือลากจูง เรือโป๊ะ เรือเครน ฯ





              เรือในภาพด้านล่างเป็นเรือลากครับ ใ้ช้ลากเรือโป๊ะ มีเครื่องยนต์ขนาดประมาณ 350-500 แรงม้า หรืออาจจะมากกว่านั้น ส่วนใหญ่ใช้ลากเรือหรือโป๊ะ ในแม่น้ำเท่านั้น ไม่นิยมลากออกทะเล เพราะด้วยรูปร่างหน้าตา ตัวเรือทำด้วยไม้ทั้งลำ เห็นเล็กแค่นี้ ราคาหลายล้านนะครับ             





              มีเรือด่วนวิ่งสวนมาครับ



          เรือลำนี้เป็นเรือของ สำนักเทศสกิจ กทม ครับ อยู่แถวๆใต้สะพานพุทธ ฝั่ง ธนบุรี



        ผมก็ถ่ายรูปไว้เยอะแยะ ไม่รู้ไปเก็บไว้ไหน เอาเป็นว่าขอติดไว้ก่อนนะครับ ขอไปหารูปที่มันเข้ากับเรื่องราวสักหน่อย แล้วค่อยมาว่ากันต่อครับ
    
              
                         ภาพด้านล่างเป็นอีกมุมหนึ่งของ ไอคอนสยามก่อนเปิดตัวเพียงไม่กี่วันครับ อยู่ฝั่งธนบุรี ตรงข้ามท่าเรือสี่พระยา




           ช่วงนี้ก็เข้าหน้าหนาวแล้ว สีของน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาก็ค่อยๆเปลี่ยนจากสีดินลูกรังออกแดงกลายเป็นสีออกคล้ำ ยังไม่ใสเท่าไรเพราะน้ำเหนือยังไม่หมด แต่ที่สังเกตุเห็นได้ชัดคือ ขยะ ที่ลอยมากับน้ำชิ้นใหญ่ๆ เช่นกล่องโฟม ถุงพลาสติ ฯลฯ น้อยลงไปมากเมื่อเที่ยบกับตอนต้นปี อาจจะเป็นเพราะโดนน้ำในฤดูฝนพาไปหมดก็ได้ หรือถ้ามองในแง่ดี หน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องความสะอาดของ กทม ทำงานได้ผลมากขึ้น หรือถ้าดีกว่านั้น การรณรงค์ไม่ให้คนทิ้งขยะลงแม่น้ำ ลำคลองได้ผล.........รู้สึกดีใจอยู่เหมือนกันครับ









         เรือสีเหลืองที่เห็นอยู่ในภาพด้านบน เป็นเรือเก็บวัชพืชของ สำนักเทศกิจ กทม ครับมีลักษณะที่แปลกจากเรือทั่วไปก็คือ ระบบขับเคลื่อนของเรือเป็นแบบ กังหันวิดน้ำ(paddle wheel) 

     ภาพจาก anarknong.blogspot



          จากรูปด้านบนจะเห็นกังหันอยู่ที่ท้ายเรือทั้งสองข้าง การบังคับเรือจะเหมือนกับขับรถตีนตะขาบ ต้นกำลังคือเครื่องยนต์ 350 แรงม้า ใช้ขับปั้มไฮดรอลิค ควบคุมกังหันทั้งสองข้าง แยกอิสระกัน ข้อดีของระบบนี้ก็คือมีความคล่องตัวค่อนข้างสูง เดินหน้า ถอยหลัง หันเลี้ยวอยู่กับที่ทำได้รวดเร็วกว่าเรือที่ใช้ใบจักรติดตั้งตายตัว แต่ข้อเสียก็คือ แพงถึงแพงมาก ความเร็วต่ำ ประมาณนั้น อีกแบบหนึ่งที่คล้ายๆกันก็จะมีสายพานเก็บวัชพืชหรือชยะที่ลอยน้ำอยู่ด้านหน้าเรือ
         
       ภาพจาก http://www.river.co.th
           

          ทั้งสองแบบมีขนาดใกล้เคียงกันครับ ใช้เก็บวัชะพืชและขยะในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงที่ไหลผ่าน กทม

         ท่าเรือด่วนถัดมาจากท่าเรือวัดอรุณฯ ก็คือท่าเตียนแต่รู้สึกว่าช่วงนี้จะปิดปรับปรุงครับ ก็ถัดมาเป็นท่าราชินี ขึ้นจากเรือที่ท่านี้เดินไปหน่อยก็จถึงปากคลองตลาด ซ้ายมือเป็นโรงเรียนราชินี


       ฝั่งตรงข้ามจะเห็นโบสถ์ ซางตาครูซ อยู่ใกล้กับสำนักเทศกิจ กทม และวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร






             จากท่าเรือราชินีถัดมาก็เป็นท่าเรือยอดพิมาน


                พึ่งปรับปรุงได้ไม่กี่ปีนี้เองครับ ขึ้นที่ท่าเรือนี้ก็เข้าไปเดินช๊อปปิ้งข้างในได้เลย มีอาหารอร่อยๆเยอะมาก(เขาบอกมา ผมยังไม่เคยไปเลยครับ)
                เรือออกจากท่านี้ ต่อไปก็คือท่าเรือสะพารพุทธ





                 นั่งเรือด่วนช่วงจากสะพานพระรามแปด ถึงสะพานพุทธ อารมณ์แบบว่าเมืองเก่าๆ วัด สถานที่ราชการฯอะไประมาณนั้นครับ






















         ออกจากท่าเรือสะพานพุทธ ต่อมาก็คือท่าเรือราชวงศ์



           ท่าเรือถัดมาก็คือ กรมเจ้าท่า








        จากสะพานพุทธ ภาพสองฝั่งแม่น้ำเริ่มเปลี่ยนไปเป็นที่อยู่อาศัย  ตึกแถว ที่มีสภาพค่อนข้างเก่า แต่ถ้าเงยหน้ามองออกไปไกลๆ ก็จะเห็นความเจริญรุ่งเรืองของ กทม ยุคใหม่ได้ชัดเจน











          ออกจากกรมเจ้าท่า เรือด่วนได้วิ่งข้ามแม่น้ำมาจอดที่ท่าเรือ ไอคอนสยาม ซึ่งปรกติจะมาจอดที่ท่าเรือสี่พระยาฝั่ง กทม แตไม่รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะถาวรหรือเปล่านะครับ








           ถ้าสังเกตุดีๆจะเห็นว่า สัญลักษณ์ของ แอปเปิล ที่เป็น ออ อ่าง ในวันเปิดงานนั้น บัดนี้ได้เปลี่ยนไปเป็นลูกแอปเปิลสีทองเหมือนเดิมแล้วครับ
           ออกมาจากไอคอนสยาม ก้ข้ามแม่น้ำมาทีท่าเรือโอเรีนนเต็ล



          จากนั้นอีกไม่ไกลก็จะถึงท่าเรือ สาทร(ตากสิน) ขึ้นที่นี่ต่อรถไฟฟ้า ไปอโศกได้ครับ



          ออกจากท่าเรือสาทร ทางซ้ายมือจะเป็นวัดยานาวา ถัดมาก็จะเป็นอู่กรุงเทพ เป็นอู่เรือเก่าแก่ของประเทศไทยเมื่อก่อนใช้เป็นอู่ซ่อมบำรุงเรือรบเกือบทุกประเภทของกองทัพเรือ จนกระทั่งปัจจุบันนี้ก็ยังทำอยู่แต่น้อยลงไปมาก

       
               
           
              ถัดมาก็เป็นท่าเรือวัดวรจันยาวาส

            ปลายทางท่าเรือสุดท้ายคือ ท่าเรือวัดราชสิงขรครับ







              ตั้งแต่ท่าเรือสาทรถึงท่าเรือวัดราฃสิงขร จะขนานไปกับถนนเจริญกรุงครับ เดินออกมาไม่ไกล ต่อรถเมล์ไปถนนตกได้ครับ
            บทความนี้ก็มาถึงตอนสุดท้ายแล้ว พอดีกับที่วันนี้เป็นวันลอยกระทง ก็ขอให้ทุกๆท่านมีความสุข สนุกสนานกันทุกท่านนะครับ รูปอาจจะใหญ่หรือเอียงไปมาอยู่บ้าง ก็แบบ บ้านๆครับ หวังว่าคงจะให้ความรู้เล็กๆน้อยๆกับทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านจนถึงตอนนี้ อ้อ อย่าลืมเรื่องความปลอดภัยนะครับ ระวังกันให้มากๆ แล้วพบกันใหม่ในบทความครั้งต่อไปครับ...........laughinglaughinglaughinglaughinglaughing

เรือจำลอง

MEMBER

STATISTICS

หน้าที่เข้าชม94,957 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด77,778 ครั้ง
เปิดร้าน24 พ.ค. 2561
ร้านค้าอัพเดท25 ต.ค. 2568

CONTACT US

0879262908
ตะกร้า
( 0 )
▲
▼
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านVIN MODEL
VIN MODEL
จำหน่าย เรือโมเดล,สอน ออกแบบ เขียนแบบเรือโมเดล กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 0879262908
เบอร์โทร : 0879262908
อีเมล : r_pinsuwan@hotmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
ค้นหาสินค้าในร้านนี้
หรือค้นหาอย่างละเอียด
ค้นหาสินค้า
สินค้าที่ดูล่าสุด

{{pdata.name}}
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้
↑
TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม