5 กุมภาพันธ์ 2567 23:48 น. สวัสดีครับทุกท่าน นี่ก็ผ่านไปหนึ่งเดือนละเร็วจริงๆ นี่ก็เกือบเที่ยงคืนแล้วครับ นั่งฟังพระสนทนาธรรมไปก็มาเขียนบทความไป วันนี้ก็จะเป็นเรื่องราวนานาสาระหรือ หาสาระไม่ได้นั่นเองครับ อิอิ
มาเริ่มกันด้วยคำว่า "พาหนะ" หรือ vehicle ในภาษาอังกฤษกันครับ ทุกท่านคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าเจ้าตัว พาหนะ นี้มันใช้ทำอะไร ตั้งแต่สมัยก่อนโบราณนานมาแล้ว เมื่อมีมนุษย์เกิดขึ้นบนโลก ในช่วงแรกๆ รัศมีการหากินก็อาจจะไม่กว้างไกลเท่าไหร่และความเร็วก็เร็วเท่าที่ขาจะพาไป ซึ่งเที่ยบกับสัตว์ต่างๆในยุคเดียวกันแล้ว มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนที่ได้ค่อนข้างช้ามากๆ ตกน้ำก็จม บินก็ไม่ได้ แต่ด้วยสมองที่มีขนาดใหญ่กว่าสัตว์ทั้งหลายเมื่อเที่ยบกับน้ำหนักตัวกันแล้ว ทำให้มนุษย์ สามารถเรียนรู้และพัฒนาการเคลื่อนที่พร้อมทั้งป้องกันหรือโจมตีศัตรูหรือสัตว์อื่นๆได้ในเวลาเดียวกัน ทำให้มนุษย์ สามารถดำรงอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ และเมื่อมีการเรียนรู้และพัฒนามากขึ้น ก็ไม่อยากจะเดินเองละ เพราะมันเหนื่อยและไปได้ไม่เร็วเท่าที่ต้องการ ก็เลยไปไล่จับสัตว์ต่างๆมาทดลองขี่ ลองผิดลองถูกจนได้รู้ว่า ม้านี่แหละตัวดีเลย ขี่ได้ เร็วด้วย แต่ผมคิดว่ากว่าที่มนุษย์คนแรกจะขี่ม้าได้คล่องแคล่ว ก็คงจะมีคนตายเพราะม้าไปมากมายเหมือนกัน ไม่ว่าจะตกม้าคอหัก ขาหัก แขนหัก หัวแตก ฯลฯ พอขี่ม้าได้ก็อยากจะเอาลูกเมียไปด้วย หลายคนม้าก็แบกไม่ไหว ก็พัฒนาต่อมาโดยหาอะไรมาให้ม้าลากแล้วขึ้นไปนั่งก็ไปได้หลายคน แต่ก็นั่นแหละครับ กว่าจะได้รถม้าที่สมบูรณ์แบบ ทั้งม้าทั้งคนก็คงตายไปอีกหลายเหมือนกัน การพัฒนาคู่กับการสูญเสียมาตลอดนะครับ และม้าก็มีข้อจำกัดคือ ขี่ลงน้ำลึกๆไม่ได้ จมทั้งคนทั้งม้าตายอีก อ้าวเห็นขอนไม้ลอยมาติดฝั่งมันไม่จมนี่หว่า ลองขึ้นไปขี่ดู้เออ มันไปได้แฮะ แต่พอขึ้นไปหลายคน ก็ล่มอีก จมน้ำตายกันอีก งั้นเอาไม้มามัดติดกันหลายๆท่อน เออมันก็ไปกันได้อีกหลายคนดีมาก แต่มันไปตามน้ำเท่านั้น ถ้าน้ำไม่ไหลมันก็ลอยอยู่ที่เดิม ก็หาอะไรมายันๆกันไป มนูษย์เรียนรู้กาดำรงชีวิตจากธรรมชาติทั้งนั้นครับ จากรถม้า กลายเป็นรถยนต์ จากไม้มัดติดกันหลายๆท่อนล่องไปตามน้ำ ก็กลายเป็นเรือ
อีทีนี้เห็นนกมันบินได้ก็อยากจะบินเหมือนนกอีกละ ก็ตายกันอีกไม่น้อย แต่เท่าที่เคยอ่านเจอมารู้สึกว่าชาวจีนนี่จะขึ้นไปบนอากาศได้ก่อนเพื่อนมั้งครับถ้าจำไม่ผิด ขึ้นไปกับ ว่าว ไงครับ ขึ้นไปสอดแนมศัตรูที่อยู่ไกลๆ แต่พี่ไทยเรานี่รู้สึกว่าจะเอาว่าวมาทำสงครามตรงๆเลย โดยส่งว่าวพร้อมมัดเชื้อเพลิงขึ้นฟ้าไป แล้วก็จุดไฟามอีกทีจนเชือกขาดตกลงในกองทัพข้าศึก เคยอ่านเจอมาอย่างนี้นะครับ นานมากละ ผิดถูกยังไงผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน แค่เอามาเล่าสู่กันเท่านั้นเอง จาก ว่าว ก็พัฒนามาเป็น บอลลูน ซึ่งก็จีนอีกนั่นแหละครับเป็นต้นฉบับ จีนเล่นโคมลอยมาหลายพันปีละ แต่ฝรั่งเอามาทำเป็นบัลลูนใส่คนขึ้นไปบนอากาศซะงั้นก็เหมือนเดิมครับ ตายไปเยอะกว่าจะสำเร็จแต่ก็แค่ลอยได้เท่านั้น ไปไหนมาไหนตามใจไม่ได้ต้องไปตามลมเท่านั้น อ้าวแล้วนกมันไปไงวะนั่น ว่าแล้วก็มีคนสร้างปีกเหมือนนก เอามาใส่แขน โดดลงมาจากที่สูงกระพือปีกไปด้วย.....ตายอีกหลายลาย แข้งขาหักอีกเยอะ จนมาเมื่อร้อยกว่าปีนิดๆนี่เองที่มนุษย์สามารถเดินทางไปในอากาศได้ในทิศทางและความสูงที่ต้องการ และการเสียชีวิตจากการพัฒนาเครื่องบินก็มีมาตลอดตั้งแต่เริ่มมีเครื่องบินจนถึงปัจจุบัน เครื่องบินรบของอเมริกันตระกูล F ทั้งหลายแหล่นี่กว่าจะพัฒนามาจนเอาไปบินยิงกันบนอากาศได้นี่ตายไปเยอะครับ เรียกได้ว่าไม่ทันรบก็ตายซะแล้ว
เมื่อมนูษย์เคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น ไกลขึ้น ไปพร้อมกันเป็นจำนวนมาก โลกเราก็ไม่สงบสุขตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็ขนาดไม่มีอะไรให้ขี้นให้นั่ง พวกก็ยังเดินไปฆ่ากันได้ นี่ขนกันลงเรือ บินข้ามภูเขาได้จะไปเหลืออะไรล่ะครับ
ว่ามาซะยาวเฟื้อยเลยนั่นก็คือผลของการมี "พาหนะ" นั่นเอง แต่ใช่ว่า พาหนะ จะนำแต่สงครามหรือสิ่งเลวร้ายไปทั่วโลกเท่านั้น ในทางกลับกันมันก็นำเอาความเจริญรุ่งเรืองกระจายไปทั่วโลกด้วยเหมือนกัน
ปัจจุบันทุกอย่างในโลกแลกเปลี่ยนกันได้รวดเร็วมาก วิชาความรู้ เทคโนโลยี่ สินค้าต่างๆ รวมทั้งสงครามก็ด้วย สินค้าจากอเมริกาใส่เครื่องบินมาลงที่จีน หรือญี่ปุ่นภายในวันเดียวก็ถึงละ และเช่นกัน ระเบิดนานาชนิดใส่เครื่องบินจากอเมริกามาทิ้งใส่ตะวันออกกลางแล้วก็บินกลับบ้านไปนอนกับครอบครัวได้ภายในวันเดียวเหมือนกัน
วันนี้เรื่อยเปื่อยจริงๆครับ ตอนเด็กๆเราชอบเปรียบเทียบแข่งกันใช่ไหมครับ ใครวิ่งเร็วกว่า จักรยานใครดีกว่า แพงกว่า ฯลฯ ตอนนี้ในเนตส่วนใหญ่ก็มีการเปรียบเทียบกันอยู่ไม่กี่อย่างเท่านั้นเอง เช่น รถหรูค่ายไหนเร็วกว่ากัน เรือหรูค่ายไหนสวยกว่ากัน เครื่องบินค่ายไหน ใหญ่กว่ากันสบายกว่ากัน ฯ และที่ชอบกันจังก็คือเรื่องของ พาหนะที่ใช้ทำสงตราม รถ เรือ เครื่องบิน ปืนใหญ่ ปืนเล็ก จรวด ฯลฯ ยิ่งในบ้านเรานี่จะซื้ออะไรมาใช้ในกองทัพกันที ก็เอาไปเปรียบเทียบกัน เยอะแยะไปหมด
พาหนะอย่างนึงซึ่งเกิดขึ้นมาไน่าจะเกินยี่สิบปีมานี้นี่เอง นั่นก็คือ "โดรนแบบสี่ใบพัด" หรือมีมอร์เตอร์ขับใบพัดสี่ชุดนั่นเองครับ มันเริ่มจากการเป็นของเล่นราคาแพงเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วและค่อยๆถูกลงเรื่อยๆ ในปัจจุบันราคาไม่กี่ร้อยบาทเองมีกล้องถ่ายทั้งภาพนิ่งและวีดีโอมาให้ด้วย มันถูกพัฒนามาเรื่อยเพื่อนำไปใช้ในงานหลายๆอย่าง ถ่ายภาพและวีดีโอเพื่อประชาสัมพันธ์ ,เอาไปพ่นยาฆ่าแมลงในแปลงเกษตกรรม ,เอามาบินเล่นเพื่อความบันเทิง ฯลฯ จนล่าสุดก็เอามาทำสงครามกันจนได้
เมื่อก่อนเราเห็นแต่โดรนที่มีหน้าตาเหมือนเครื่องบิน ติดอาวุธไปยิงใส่ฝ่ายตรงข้าม ต่อมาขนาดของโดรนพวกนี้ก็มีขนาดที่เล็กลง งานหลักของมันคือใช้ตรวจการณ์หาข่าวในพื้นที่สู้รบ ภาพคมชัดระดับ 4K เลยทีเดียว แต่พอถึงยุคสงครามระหว่าง อาเมเนียกับอาเซอไบจัน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ความจริงก่อนหน้านี้ ชาติตะวันตกก็พัฒนาโดรนโจมตีขนาดเล็กออกมาแล้วหลายรุ่นหลายประเทศ ราคาก็เอาเรื่องเหมือนกัน แต่สงครามครั้งนี้ อาเมเนียเสียท่าจริงๆครับ ถูกโดรนราคาไม่กีพันบาท หรืออาจจะถึงหมื่นต้นๆก็ได้ เป็นโดรนสี่ใบพัดที่เราเล่นกันอยู่นี่แหละครับ พวกเอาไปติดระเบิด เที่ยวพุ่งไล่ชนสารพัดรถรบต่าง เสียหายยับเยิน ปืนใหญ่ก็ไม่รอด เห็นคลิปแล้วหดหู่จริงๆ
พอมาถึงสงครามรัสเซียบุกยูเครน อันนี้เรียก สยดสยองกันเลยทีเดียว เพราะโดรนไม่ได้วิ่งไล่ชนแต่รถรบหรือปืนใหญ่ ฯ เท่านั้น มันบินไล่ชนทหารตัวเป็นๆนี่แหละครับ ราคาโดรนที่ใช้ก็หมื่นต้นๆถึงสองหมื่นเท่านั้นเอง น่าจะถูกกว่าลูกปืนใหญ่หรือจรวดนำวิถีซะอีก และยี่ห้อที่เป็นที่นิยมใช้ในยูเครนก็คือ เออ......บอกได้ไหมอ่า ไปหาดูในคลิปเอาเองก็แล้วกันครับ
https://youtu.be/U-4U2G9wxj0?si=tkEz4Ia4_TmLCEea
ลองไปดูที่คลิปนี้ก็ได้ครับเบาหน่อย ไม่มีภาพบาดใจเท่าไหร่
ทหารยูเครนเอาระเบิดสารพัดชนิด ติดเข้าไป เช่น ลูกปืนของ M79 ขนาด 40 มม. ใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็ ระเบิดมือ จำนวนที่ติดก็แล้วแต่ขนาดของโดรน ใหญ่ขึ้นมาอีกก็เป็นพวกระเบิดดัดแปลงต่างๆ แต่ที่เห็นใหญ่ที่สุดเห็นจะเป็น หัวจรวด RPG ซึ่งมีอยู่หลายรุ่นมากและก็เพิ่งมาเห็นเมื่อไม่นานมานี้นี่เอง การรบช่วงแรกของโดรนประเภทนี้เราจะเห็นในคลิปแค่มันไปหย่อนระเบิดใส่รถรบต่างๆของรัสเซีย แต่หลังๆมานี่ เห็นมันบินชนเต็มเลยและการระเบิดก็รุนแรงมากกว่าเมื่อก่อนขนาดคนประจำรถที่กำลังวิ่งอยู่ก็ไม่น่าจะหนีออกมาทันแน่ๆ บางคลิปเห็นหน้าทหารรัสเซียก่อนถูกชนอย่างชัดเจน มันเป็นอะไรที่น่ากลัวจริงๆครับ ผมคิดว่าทหารบางคนที่ตายไปไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าโดนอะไรเข้าไป
วันนี้ว่าจะเรื่อยเปื่อยแล้วเชียว แต่กลับมาลงท้ายด้วยเรื่องเครียดจนได้ ชีวิตทุกคนมีราคาทั้งนั้นครับ กว่าจะโตมาได้ หวังว่าทุกท่านจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกันนะครับ
ราตรีสวัสดิ์ครับทุกท่าน
6-2-2566 1:32 น.
............................................................................................................................