มาดูโครงสร้างเรือสปีดโบ๊ทเล็กๆกันมั่ง

                  24 ธันวาคม 2566 12:39 น.    สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ได้เห็นข่าวจากทีวี ว่าทะเลในบ้านเราตอนนี้แรงจริงๆ มีเรือจมเพราะคลื่นลมแรงมาสองสามวันแล้ว ส่วนใหญ่เป็นเรือท่องเที่ยวขนาดเล็กทั้งนั้น แต่บรรทุกผู้โดยสารไปแต่ละลำมากบ้างน้อยบ้าง หลายลำก็ช่วยเหลือคนบนเรือขึ้นมาได้หมด แต่ก็มีบางลำที่ยังคงค้นหากันอยู่ ในข่าวเห็นว่ายังหาไม่เจออีกสองคน ก็หวังว่าจะปลอดภัยกันครับ
               เมื่อนานมาแล้ว เห็นเรือสปีดโบ๊ท เรือเร็วรูปร่างสวยงามแล่นเร็ว ก็นึกชอบขึ้นมา อยากได้อยากมีเหมือนเด็กผู้ชายทั่วๆไป แต่ก็ไม่รู้ว่าราคาค่าตัวมันเท่าไหร่ พอมีอินเตอร์เนต ก็เหมือนเป็นการเปิดโลกกว้างเลยทีเดียว พอเห็นราคาแล้วห่อเหี่ยวมากๆเลย เพราะมันแพงกว่ารถยนต์ในขนาดกว้างยาวเท่ากันหลายเท่า ชาตินี้ไม่ต้องหวังแล้วม้างงงงงง
              สมัยก่อนในบ้านเราหาดูเรือเร็วหรือสปีดโบ๊ทตัวเป็นๆได้ยากมาก แม้แต่เมืองชายทะเลที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวก็ตาม นานๆจะเห็นผ่านมาลำนึงไกลลิบๆ นั่งมองเป็นหมามองเครื่องบินก็ไม่ปาน เรือนำเที่ยวบ้านเราในสมัยนั้นก็จะเป็นเรือประมง ดัดแปลงซะเป็นส่วนใหญ่ โดยเอาเก้าอี้มาใส่ให้นั่งกันเท่านั้นเอง ครั้งนึงไปเที่ยวเกาะเสม็ด ระยอง วันนั้นคลึ้มฟ้าคลึ้มฝนมากๆแต่ผนไม่ตก พอเรือออกไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ ก็มาละครับ ที่เขาว่าคลื่นลูกเท่าภูเขานี่บอกเลยว่าไม่เกินจริงเลยทีเดียว เวลาเรือฝ่าคลื่นนี่ ตึงตังมากๆ พอลงจากยอดคลื่นก็มองเห็นแต่กำแพงน้ำอยู่รอบตัว ทุกคนนั่งกันเงียบกริบ ได้ยินแต่เสียงเครื่องยนต์เรือแข่งกับเสียงคลื่นที่มาปะทะหัวเรือ ระยทางจากฝั่งบ้านเพไปเกาะเสม็ดแค่ประมาณ ห้ากิโลฯกว่าๆ แต่ความรู้สึกเหมือนมันไกลเกินร้อยกิโลฯได้ แต่ทุกอย่างก็จบลงดื้อๆ เมื่อเรือแล่นเข้าใกล้เกาะเสม็ด ทั้งลมทั้งคลื่น หายไปไหนไม่รู้ครับ เหมือมีใครปิดสวิทย์ซะงั้น นั่นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ผมเคยพบเจอคลื่นที่สูงขนาดนั้น จากนั้นก็ไปที่เกาะนี้อีกหลายครั้งก็ไม่เคยเจออีกเลย นี่ก็ผ่านมาสามสิบกว่าปีแล้วก็ยังจำได้ดีครับ ตอนนั้นผมาอายุยี่สิบกว่าเองๆ
            เมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว ด้วยงานที่ทำ ได้มีโอกาสนั่งเรือ ยอชน์ ขนาด ยาวห้าสิบกว่าเมตรของฝรั่งที่พัทยา เข้ามาที่ กทม เพื่อมาขึ้นอู่แห้งที่ อู่กรุงเทพ ตรงสาธร งานนี้ต้องเปิดสะพานกรุงเทพด้วยครับ สนุกดี เรือทอดสมออยู่นอกฝั่งตรง โอเชียนมารีน่าพัทยา ต้องขึ้นเรือเล็กเพื่อไปขึ้นเรือใหญ่อีกที ตอนนั่งเรือเล็กออกไป ก็รู้สึกว่ามันไม่น่าจะสนุกซะแล้วครับเพราะห่างฝั่งออกมาแค่ไม่กี่ร้อยเมตรคลื่นก็สูงละ อยู่ในเรือเล็กๆอย่างนี้ยืนไม่ได้เลยทีเดียว
           พอออกเรือได้ก็มุ่งหน้าเข้า กทม เส้นทางที่ใช้ก็ ผ่านด้านในเกาะล้าน เรื่อยมา ผ่านด้านนอกเกาะสีชัง ความเร็วเดินเรืออยู่ที่ประมาณ 12 น๊อต หรือ 20 กว่ากิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้นครับ ยิ่งไปคลื่นยิ่งโตขึ้นเรื่อยๆ เรือประมงที่เห็นอยู่ไกลๆนี่เรียกได้ว่า กระโดดคลื่นกันเลยทีเดียว จากตื่นเต้นที่ได้ขึ้นเรือสุดหรู กลายเป็นตื่นเต้นเพราะคลื่นมันโตขึ้นเรื่อยๆครับ เรือลำนี้มี stabilizer หรือ คลีปกันโคลงอัตโนมัตอยู่ด้วย เรือเลยไม่โคลงไปมาให้เวียนหัว แต่ว่ามันก็เหมือนกับจะกระโจนฟันคลื่นอยู่ตลอกเวลา ยืนลำบากมากๆครับต้องหาที่นั่ง พวกผมหลายคนก็มาหาที่นั่งสูบบุหรี่ที่ท้ายเรือ ปานนั้นก็ยังโดนน้ำทะเลกระเซนเข้ามา เปียกกันพอสมควร แต่พอใกล้อาคารนำร่องเข้ามาคลื่นก็เริ่มหายไปละครับค่อยสบายตัวหน่อย จอดรอนำร่องก่อน เพราะเรือยาวเกินห้าสิบเมตร ต้องมีเจ้าหน้าที่นำร่องของเจ้าท่าขึ้นเรือเพื่อมานำเรือเข้าร่องน้ำสู่แม่น้ำเจ้าพระยาต่อไปจนถึงท่าเรือที่จะเทียบจึงจะหมดหน้าที่ เจ้าหน้าที่นำร่องที่ขึ้นเรือมาไม่ได้มาถือพังงาหรือมาเร่ง-เบาเครื่องเรือนะครับ แต่ขึ้นมาให้คำแนะนำว่า ตรงไหนให้เรือหันหัวไปทางไหน เร็วเท่าไหร่ ฯ ประมาณนั้น
         ที่ว่ามาซะยาวก็เพื่อจะบอกว่า ทั้งเรือประมงดัดแปลงที่เคยนั่งและเรือยอชน์สุดหรู้มันมีอะไรที่เหมือนกันอยู่อย่างคือ เวลามันแล่นฝ่าคลื่นไป ความสั่นสะท้านของตัวเรือแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ ฟันคลื่นไปตึงๆนี่ นิ่งเลยครับ ตัวเรือไม่มีอาการสั่นเลยหรือมีก็แค่เล็กน้อยเท่านั้นเอง มั่นคงมากจริงๆ สาเหตุก็เพราะว่า ทั้งสองลำมีโครงสร้างและเปลือกเรือที่แข็งแรงมาก เรือประมงไม้บ้านเรา ไม้เปลือกเรือนี่หนาประมาณเกือบสองนิ้วเห็นจะได้ กงเรือหรือเฟรมก็เป็นไม่เนื้อแข็งหนาไม่ต่ำกว่าหกหรือแปดนิ้ว ระยะก็ค่อนข้างถี่ด้วย จุดอ่อนเดียวเท่าที่ผมเห็นก็คือห้องเครื่อง มันเปิดโล่งเลยมองเห็นได้เกือบรอยทิศเว้นด้านหน้าด้านเดียว ถ้าโดนคลื่นสูงๆ ตบท้ายหรือตบมาด้านข้างนี่มีเสียวแน่ๆครับ ส่วนเรือยอชน์ไม่ต้องพูดถึงเลยครับปิดหมด อัตรารอดค่อนข้างสูงอยู่เว้นแต่ว่าเครื่องอย่าดับกลางทะเลเท่านั้นค่าเท่ากัน
          ทีนี้ลองมาดูโครงสร้างเรือสปีดโบ๊ทเล็กๆกันมั่ง มีตัวอย่างแบบให้ดูกันครับ

               เรือลำนี้ยาวประมาณเกือบเจ็ดเมตร กว้างประมาณสองเมตรกว่าๆ ดูแบบด้านบนสุดคือโครงสร้างของท้องเรือ ทั้งตามยาวและตามขวางมี กริด ขนาดใหญ่ทำด้วยไฟเบอร์กลาสเหมือนกัน ค่อนข้างถี่มากๆ และระหว่างกริดก็อัดด้วยโฟมเต็มทุกช่อง ตรงกลางเป็นถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 200 ลิตร เรือเร็วหรือสปีดโบ๊ท ก็จะมีโครงสร้างประมาณนี้แทบทั้งนั้นครับ มาดูแบบถัดมาเป็น midship แสดงถึงวัสดุที่ใช้ทำเปลือกเรือทั้งหมด ทั้งท้องเรือและข้างเรือ ตลอดจนพื้นภายใน ที่ท้องเรือมีวัสดุต่างกันอยู่แปดชั้น ที่ข้างเรือมีหกชั้น แต่ละชั้นมีความหนาไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับขนาดของใยแก้วนั่นเอง โดยรวมแล้วผมว่าความหนาที่ท้องเรือน่าจะไม่ต่ำกว่าหนึ่งนิ้วแน่ๆ เผลอๆอาจจะถึงสองนิ้วด้วยซ้ำไป ใครมีประสบการณ์ด้านนี้คงจะทราบกันดี และนี่แหละครับ เป็นเหตุผลที่ว่าทำไม เรือสปีดโบ๊ทที่ทำด้วยไฟเบอร์กลาสมันถึงมีราคาแพงมากๆ
         ยกตัวอย่างง่ายๆครับ ที่ผมซื้อมาทำเรือเด็กเล่นนี่แหละ เรซิ่นกิโลละร้อยบาท ใยแก้วเบอร์ 300 ตารางเมตรละร้อยกว่าบาท เจลโค๊ดอีกกิโลละร้อยกว่า ทั้งหมดนี่ทำแผ่นไฟเบอร์กลาสได้แค่หนึ่งตารางเมตรเท่านั้น ความหนาก็ประมาณ เกือบสองมิลลิเมตรหรืออาจจะน้อยกว่านั้นอีกครับ รวมค่าอย่างอื่นอีกก็หลายร้อยอยู่ ดังนั้นเรือไฟเบอกลาสหนึ่งลำจึงไม่ใช่ถูกๆ นี่ยังไม่รวมค่าแรงนะครับ
         เพื่อลดต้นทุนก็เลยมีการใช้วัสดุอย่างอื่นมาทำเปลือกเรือและโครงสร้างแทนไฟเบอกลาส ที่เห็นในบ้านเราในสมัยก่อน หรือแม้แต่ฝรั่งต้นตำหรับเองก็เถอะครับ ก็คือใช้ ไม้อัดกันน้ำมาแทน ถูกว่าหลายสิบเท่า ทำเสร็จแล่นได้ บรรทุกคนได้ เร็วได้เท่าที่เครื่องยนต์จะพาไป แต่ ความแข็งแรงเที่ยบกันไม่ได้เลยแม้แต่น้อยครับ บางลำก็จะใช้วิธีเอาไฟเบอกลาสไปเคลือบทับอีกชั้นหรือสองชั้นแล้วขัดจนเหมือนเรือไฟเบอกลาสทั้งลำก็มี ดังนั้นก็สังเกตกันหน่อยครับเวลาจะลงเรือไปเที่ยวทะเล เคาะๆดูหน่อยแต่ก็แยกยากอยู่ดี ทางที่ดี เวลาจะไปเที่ยวทางน้ำก็ต้องใส่เสื้อชูชีพไว้ตลอดเวลาเป็นดีที่สุดครับ
          ผมก็เข้าใจในสภาพเศษฐกิจและบางครั้งของที่ต้องการใช้มันก็หายากพอสมควร เพราะวัสดุที่นำมาทำไฟเบอกลาสสำหรับต่อเรือนั้นมันคนละเกรดกับที่ผมเอาทำเรือเด็กเล่นและราคาก็แพงกว่ามาก ซึ่งก็จะทำให้ต้นทุนในการเดินทางทางน้ำสูงขึ้นอย่างมากนั่นเอง บ้านเรามีไม่กี่เจ้าที่สั่งเข้ามา ถ้าได้ล่วงเกินท่านใดไปก็ขออภัยด้วยครับ ถือว่าเป็นการให้ความรู้แก่คนทั่วไปก็แล้วกัน 
          วันนี้ก็มีเท่านี้แหละครับ ขอให้เที่ยวกันให้สนุกครับ กลับมาปลอดภัยทุกท่าน ราตรีสวสดิ์ครับ
2:52 น.
        

............................................................................................................................