โครงการใหญ่ๆที่มีมูลค่ามหาศาลนั้น มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ในที่นี้หมายถึงตั้งแต่ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักอย่าง

               14 มิถุนายน 2566 20:46 น. สวัสดีทุกท่านครับ วันนี้จะมาโม้เรื่องหนึ่งที่หลายๆท่านอาจจะสงสัยและอยากจะรู้ว่า โครงการใหญ่ๆที่มีมูลค่ามหาศาลนั้น มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ในที่นี้หมายถึงตั้งแต่ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักอย่าง ตามมาครับ ผมจะโม้ให้ฟัง 55555555
            เอาเป็นว่าผมจะยกตัวอย่างขึ้นมาสักหนึ่งโครงการก็แล้วกัน หลายท่านอาจจะเคยได้ยินคำว่า "มารีน่า" มาบ้างแล้ว แต่อาจจะไม่รู้ว่ามันมีไว้ทำไมนอกจากเป็นที่สำหรับ "จอดเรือยอร์ช" อย่างเดียว จริงแล้วมันก็เป็นอย่างที่หลายท่านเข้าใจนั่นแหละครับ แต่ หลายท่านอาจจะยังไม่รู้ว่า มีแค่เรือยอร์ชอย่างเดียวบางทีก็อาจจะไม่สามารถนำเรือเข้าไปจอดได้ เพราะในขอบเขตของ มารีน่า มันมีกฏระเบียบและมาตราฐานต่างๆค่อนข้างเยอะพอสมควรและที่สำคัญที่สุดคือ ต้องมีเงินเยอะๆด้วยครับ
           มารีน่า ก็เลยเป็นที่หมายปองของกลุ่มทุนบางกลุ่มที่พยายามจะสร้างขึ้นมาให้ได้ โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญในประเทศไทย เช่น พัทยา ,ภูเก็ต ,หรือตามแนวชายฝั่งทะเล ที่สวยงามต่างๆ แต่ในปัจจุบัน ด้วยกฏหมายและระเบียบของทางรัฐฯ บางอย่างทำให้การ "สร้างมารีน่า" เป็นอะไรที่โหดหินมากสำหรับนักลงทุน ใครสร้างได้นี่รอรับทรัพย์ได้เลยครับ แต่นั่นต้องหมายความว่าต้องได้ผู้บริหารที่เป็นที่น่าเชื่อถือท้้งในและนอกประเทศด้วยนะครับ ไม่ใช่ว่าจะเอาใครก็ได้มาบริหารงานใน มารีน่า ก็ได้
          นั่นก็เพราะว่า เรือที่เข้ามาใช้บริการแต่ละลำมันมีราคาสูงมากนั่นเอง คงไม่มีเจ้าของเรือยอร์ชที่ไหนหรอกครับ เอาเรือมาผูกไว้กับท่าเรือทั่วๆไปแล้วก็ลงจากเรือโดยใส่กุญแจไว้แล้วก็ไปเที่ยวบนบกแบบสบายใจแน่ๆ
         ในมารีน่า ทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายทั้งนั้นครับแต่ก็ต้องมีความสดวกสบายและความปลอดภัยอย่างสูงให้กับเรือที่เข้ามาใช้บริการด้วยนั่นเอง รายได้มาจากทางไหนบ้างมาดูกันครับ
    1.ค่าจอดเรือ อันนี้แน่นอนอยู่แล้วครับ ส่วนใหญ่คิดราคาตามขนาดความยาวของเรือเป็นฟุตต่อวันนะครับ เช่น ฟุตละร้อยบาทต่อวัน เรือยาว แปดสิบฟุตก็คูณด้วยร้อยบาทเข้าไปก็ตกวันละแปดพันบาท(เป็นตัวเลขสมมุตินะครับเพื่อให้คิดได้ง่ายๆ) แต่ก็จะมีราคาเหมาเหมือนกันในกรณีที่จอดเป็นเดือนหรือเป็นปีแล้วแต่ว่าจะบริหารจัดการกันอย่างไร
    2.ค่าน้ำจืด นี่ก็คิดเงินอีกเหมือนกันราคาจะสูงกว่าราคาน้ำปะปาพอสมควร
    3.ค่าไฟ นี่ก็เหมือนกันครับ เมื่อเรือยอร์ชเข้ามาเที่ยบท่าในมารีน่า เรือบางลำก็มีคนประจะเรืออยู่ ต้องเปิดแอร์ เปิดตู้เย็น และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เขาก็ใช้วิธีต่อไฟฟ้าจากบนบกเข้าไปใช้แทนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าภายเรือซึ่งถูกว่ามาก แต่ราคาค่าไฟฟ้าก็ยังแพงกว่าค่าไฟตามบ้านอยู่พอสมควรครับ
    4.น้ำมันเชื้อเพลิง ไม่ว่าจะเป็นเบนซินหรือดีเซล ก็มีให้บริการในกรณีที่ต้องการเติมใส่เรือ ราคาก็สูงกว่าตามปั้มน้ำมันในบ้านเราน่าจะเกือบเท่าตัวมั้งครับ ถ้ามีความต้องการขึ้นมา
    5.บริการร้านอาหารและเครื่องดื่มใน ยอร์ชคลัป หรือประมาณห้องอาหารหรูๆนั่นเองครับ
    6.มารีน่าบางแห่งมีพื้นที่กว้างขวางมากสามารถแบ่งเป็นโซนต่างๆได้หลายโซนมากเช่น โซนซ่อมบำรุงบนบก โดยมีรถยกหรือรถเครน หิ้วเรือขึ้นมาจากน้ำแล้วนำไปวางในโซนซ่อมบำรุงที่เตรียมไว้ และหรือมี ทางลาดขึ้นลงทะเล สำหรับนำสารี่เรือลงไปรับเรือแล้วลากขึ้นมาไว้ที่โซนนี้ก็ได้เหมือนกัน หรือเรือที่มาจอดนานๆเป็นครึ่งปี หรือหลายๆเดือน เจ้าของมีความต้องการที่จะนำเรือขึ้นมาไว้บนบกก็จะมีโซนที่เอาไว้เพื่อการนี้เหมือนกัน แน่นอนว่าทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่ายทั้งนั้นครับ
    7. ฯลฯ
          ถามว่าแล้วจะมีเรือที่ไหนมาใช้บริการมากมายขนาดนั้น ขอตอบว่า ทุกวันนี้ ทั้งพัทยาและภูเก็ต ยังมีความต้องการ มารีน่าอีกเยอะครับ ที่มีอยู่ในตอนนี้ "เต็ม" หมดแล้วครับ ไม่พอต่อความต้องการ ทั้งภายในประเทศและที่มาจากต่างประเทศอีกจำนวนไม่น้อยเลยครับ


          ข้างบนนี้คือ โอเชียนมารีน่า พัทยา ภาพจาก Google Earth ครับ


             ข้างบนนี้คือโบ๊ทลากูน(เวิ้งข้างล่างซ้ายครับ) ส่วนบนขวาก็คือโรยอลมารีน่า อยู่ที่ภูเก็ตครับ  ภาพจาก Google Earth ครับ


            ข้างบนนี้คือ อ่าวปอมารีน่า ภูเก็ตครับ  ภาพจาก Google Earth ครับ 


            ข้างบนนี้คือ ยอร์ชเฮฟเว่นมารีน่า ภูเก็ตครับ  ภาพจาก Google Earth ครับ
         จากภาพข้างบนจะเห็นว่าในมารีน่าแต่ละแห่งนั้น "เต็ม" ไปด้วยเรือทั้งเล็กและใหญ่เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก และยังมีอีกมากที่ต้องทิ้งสมอนอนเฝ้าเรืออยู่ตามอ่าวที่บังคลื่นลมได้ ทั้งที่ภูเก็ตเองและตามชายฝั่งทะเลของไทย
         หลายปีมานี้ได้มีความพยายามที่จะสร้าง มารีน่า จากกลุ่มทุนทั้งจากภายในประเทศและจากทุนที่มาจากภายนอกประเทศ อย่างน้อยๆที่ผมได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยก็สองโครงการแล้วครับ เพียงแต่อยู่ในขั้นเริ่มตั้งไข่กันประมาณนั้น ยังต้องไปอีกไกลพอสมควร เพราะทุนที่จะใช้ในการสร้าง มารีน่านั้น ไม่ใช่หลักสิบหรือหลักร้อย ล้านนะครับ แต่มันสูงเป็นหลายร้อยล้านบาท เอาแค่ค่าที่ดินก็หลายร้อยแล้ว กว่าจะรวมที่ดินที่มีสภาพเหมาะสมได้นี่ไม่ง่ายนะครับ ไม่ใช่ว่ามีที่ดินติดชายทะเลแล้วทำมารีน่าได้ทุกแห่งซะเมื่อไหร่ ภาพของมารีน่าที่นำมาลงให้ชมกันข้างบนนั้น เกิดมาหลายสิบปีแล้วนะครับ ไม่ใช่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อไม่กี่ปีมานี้ สมัยนั้น กฏหมายและระเบียบต่างๆทาง สิ่งแวดล้อมและของกรมเจ้าท่า กรมทรัพยากร และอีกหลายๆหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ยังไม่ได้เป็นเหมือนปัจจุบันนี้ แต่ตอนนี้ไม่ง่ายแล้วครับ  ชุมชนท้องถิ่น อบต อำเภอ อบจ จังหวัด ฯ เกี่ยวข้องหมด ถึงจะมีเงินก็ตาม ถ้าต้องจ่ายคงจะจ่ายกันไม่ไหวแน่ๆ มีวิธีเดียวก็คือ ทำให้ถูกต้องตามกฏหมายเท่านั้น ครับ
           ว่ามาซะยาวเลย ยังไม่เข้าเรื่องซะที 

          สามภาพข้างบนไปตรวจเรือยอร์ชของฝรั่ง ที่ ยอร์ชเฮฟเว่น มารีน่าครับ เรือลำนี้เกิดอุบัติเหตุจากการใช้เครนยกลงจากเรือใหญ่ แล้วสายผ้าใบที่ใช้คล้องเรือ มันไปครูดกับกราบเรือและราวกันตกที่หัวเรือ เกิดรอยแตกขึ้นมา เขาส่งเรือมาก่อนทางเรือขนส่งขนาดใหญ่ แล้วเจ้าของเรือจะบินตามมาครับ การไปตรวจเรือครั้งนั้นก็เพื่อทำรายงานส่งประกันภัยโดยผู้เชี่ยวชาญทางวเรือโดยเฉพาะครับ ก่อนรับงานก็ต้องแสดงหลักฐานคุณวุฒิกันพอสมควร ว่าเรียนอะไรจบจากไหน ประมาณนั้นครับ เหตุการณืนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2011 ครับ ตอนนั้นผมก็หน้าตาไม่ค่อยน่าคบเท่าไหร่...55555555 นั่งเครื่องบินไปตอนเช้า ถึงภูเก็ตสายๆ กลับตอนเย็นๆถึง กทม ตอนค่ำๆ ถึงบ้านก็เกือบสี่ทุ่มได้มั้งครับ วันเดียวเสร็จ งานนี้ ฝรั่งหมดไปหลายหมื่น รวมค่าเครื่องบินไปกลับสองคนด้วยครับ


        สี่ภาพข้างบนนี้คือความเสียหายที่เกิดจากสายที่ใช้ยกเรือครูดเอาตอนเอาเครนยกเรือลงน้ำที่ภูเก็ตครับ



            ที่เห็นถอดเสื้อกำลังจะลงน้ำนี่ ไม่ใช่ลูกเรือนะครับแต่เป็นกัปตันของเรือลำนี้เป็นชาวรัสเซียแต่พูดอังกฤษไฟแล่บเลย ลงทุนดำลงไปดูความเสียหายใต้ท้องเรือด้วยตัวเอง แต่พอขึ้นมาปรากฏว่าท้องเรือไม่เป็นอะไรเลย แต่หลังพี่แก โดนเพรียงขูดไปหลายแผลเลือดซิบเป็นทางยาวเลยครับ อ้าวก็ยังไม่ไปถึงไหนอีกอยู่ดี
           ต้องเป็นพรุ่งนี้แล้วครับ ตอนนี้เริ่มมึนๆอีกแล้ว ช่วงนี้มึนหัวบ่อยๆ ก็ต้องกล่าว ราตรีสวัสดิ์กันแล้วครับ ขอให้ทุกท่านหลับสบาย ตื่นมาสดชื่นครับ
22:40 น.

.............................................................................................................................