31 พฤษภาคม 2566 8:29 น. อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้มาเช้าเลยตีห้ากว่าๆ เมื่อคืนตื่นมตีหนึ่งกว่าๆ เวลานอนยุ่งเหยิงไปหมดแล้วครับ แต่ก็ช่างมันเถอะ ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น
เมื่อวานก็เริ่มกันแล้วครับสำหรับการแข่งขันวอลเล่ย์บอลระดับโลกในรายการ VNL ที่หลายๆคนตั้งตารอคอยรวมทั้งผมก็ด้วย และก็ไม่ผิดหวังจริงๆผมเองก็ไม่กล้าดูหรอกครับ ผมารู้ผลตอนตื่นนอนเมื่อคืนนี้และก็ได้ดูคลิปต่างๆอีกมาก ไม่ผิดหวังจริงๆสำหรับสาวไทยทีมนี้ แพ้ก็คือแพ้ครับ ยอมรับได้อยู่แล้ว แต่ที่น่าห่วงคือ อาการบาดเจ็บของนักกีฬาขิงเรา ค่อนข้างรุนแรงพอสมควร ดูจากในคลิปแล้ว ก็ขอเอาใจช่วยครับขอให้หายเร็วๆ กลับมาสู้ไปพร้อมๆกัน
บทความที่แล้วว่าด้วยเรื่องของขั้นตอนในการทำเรือจำลองว่า เริ่มยังไง ไปต่อยังไงและจบลงแบบไหน และวันนี้ก็จะเอาเรื่องเก่าๆอีกเรื่องหนึ่งมาบอกเล่าสู่กันฟังครับ นั่นก็คือเรื่อง ชั้นตอนการทำเรือ ของจริงครับ แบบที่เสร็จแล้วก็เอาลงน้ำใช้งานได้จริงๆนั่นแหละครับ จะเล่ากี่ที่ก็เหมือนเดิมทุกที่อาจจะมีแตกต่างในรายละเอียดบางส่วนเล็กๆน้อยๆที่แทรกหรือเพิ่มเข้าไป นอกนั้นส่วนใหญ่สาระใจความหลักๆก็เหมือนเดิมทุกอย่าง เผื่อใครที่ขี้เกียจไปค้นบทความเก่าๆของผม ก็มาอ่านเอาตรงนี้ก็แล้วกันครับ ถือว่าเป็นการฆ่าเวลาหรือเป็นมวยแทนก็ได้ หรือใครที่ทราบอยู่แล้วจะข้ามไปก็ไม่เป็นไรครับ
เรือหนึ่งลำจะเล็กหรือใหญ่ก็มีราคาทั้งนั้นครับ เรือพลาสติกที่เห็นพิงอยู่ตามร้านขายของข้างถนนที่เห็นนั่นราคาไม่เบานะครับ สี่ ห้าพันบาทขึ้นทั้งนั้น เรือพายเรือแจวที่ทำด้วยไม้กระดานไม้จริง ราคาลำหนึ่งก็น่าจะเกือบหมื่น เรือหางยาวเรือแข่งต่างๆก็เช่นกัน บางลำราคาโดไปหลักแสน หรือล้านบาทก็มี ลำนิดเดียวนั่งได้ไม่กี่คนเอง นี่ขนาดเรือที่เรียกว่าเรือพื้นบ้าน ต่อกันเองนะครับ ขยับขึ้นมาหน่อยในเรื่องของขนาดและความทันสมัยก็จะเป็นพวกเรือ สปีดโบ๊ท ที่ทำด้วยไฟเบอร์กลาสทั้งลำหรือทำด้วยไม้อัดกันน้ำแล้วเคลือบด้วยไฟเบอร์กลาสอีกที ราคาก็จะโดดขึ้นไปอีก และเครื่องยนต์ก็จะมีราคาแพงมากสำหรับเรือประเภทนี้ เรียกได้ว่า แพงทั้งตัวเรือและเครื่องยนต์เลยทีเดีย
ขยับขึ้นมาอีกนิดก็เป็นเรือที่ต่อขึ้นมาใช้งานเฉพาะทาง เช่นเรือข้ามฟาก เรือขุดลอกคูคลอง เรือบรรทุกิสินค้าขนาดเล็กแต่ก็ไม่เล็กเลย เรือโดยสาร ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะทำด้วยโลหะ แต่ก็มีบางลำทำด้วยไฟเบอร์กลาสหรือไม้ก็มีให้เห็นกันอยู่ เช่นเรือด่วนเจ้าพระยาที่คุ้นตากันดี ส่วนใหญ่ก็ต่อด้วยไม้ แต่หลังๆมานี่เริ่มถูกแทนที่ด้วยเรือที่ต่อด้วยเหล็กแล้ว จากขนาดที่ใหญ่ขึ้น และไม้ที่หาได้ยากและมีราคาแพงขึ้นนั่นเอง ซึ่งอีกไม่นานเรือด่วนเจ้าพระยาที่เป็นไม้ก็คงจะหายไปตามกาลเวลานั่นเองครับ
เมื่อเรือมีขนาดที่ใหญ่มากขึ้น วัสดุที่ใช้ก็ต้องมีความแข็งแรงมากขึ้นตามไปด้วย ราคาก็จะมากขึ้นตามกันเป็นทอดๆ ราคาเหล็กเมื่อปี พ.ศ. 2533 ผมจำได้ว่า กิโลละประมาณ สิบกว่าบาท นั่นคือเหล็กที่ใช้ในการต่อเรือนะครับ เหล็กที่นำมาใช้เป็นโครงสร้างก็เช่นกัน แต่ถ้าเป็นเหล็กที่ใช้งานบนบกทั่วๆไป ราคาก็จะต่ำกว่า ถามว่าใช้แทนกันได้ไหม ตอบว่า ได้ แต่ไม่ควรครับ เช่น เหล็กเปลือกเรืออย่างเก๊สุดๆก็เป็นเหล็กที่มีโค้ดเป็น SS-400 หรือ SS-41 เป็นอย่างน้อย แต่ปัจจุบันนี้ เหล็กตัวนี้กลายเป็นแผ่นเหล็กที่ซื้อหาได้ง่ายมากผิดกับเมื่อก่อน ทั้งหายากและมีราคาแพง บางเวลาต้องสั่งจากต่างประเทศก็มี และยังมีเหล็กรูปพรรณอีกหลายตัวที่เป็นปัญหาในการต่อเรือในประเทศไทยครับ เช่น เหล็กที่ใช้ทำ เพลาใบจักร และใบจักรของเรือเองก็หายากเช่นกันในขนาดที่ต้องการในบ้านเรามีคนทำอยู่ไม่กี่เจ้าเองครับ อู่ต่อเรือหรือเจ้าของเรือบางราย ถึงกับต้องไปกว้านหาในตลาดโลก เพื่อค้นหาเหล็กที่ต้องการมาตุนไว้ก็มีมาแล้ว แพงไม่กลัว กลัวไม่มีขายครับ
เรื่องวัสดุว่าหนักหนาสาหัสแล้ว เรื่องของเครื่องยนต์หรือเครื่องจักรต่างๆยิ่งหนักเข้าไปอีก และมาจนถึงปัจจุบัน สถานะการณ์ก็ยังคงเหมือนเดิม เห็นได้จากกรณีเรือดำน้ำที่จีนต่อให้กับกองทัพเรือไทย ไม่สามารถหาเครื่องยนต์ตามสัญญามาติดตั้งให้ได้ ถ้าเป็นเอกชนบ้านเราหรือฝรั่ง มันฟ้องกันล่มจมไปแล้วครับ ค่าเสียโอกาสมันมหาศาลมากจริงๆ ถ้าเรือต่อเสร็จล่าช้าออกไป กำหนดการต่างๆที่ได้วางไว้มันจะพังหมด ทั้งเรื่องไปรับงานไว้แล้ว ทั้งลูกเรือที่จ้างไว้ ฯลฯ นี่เฉพาะของเอกชนนะครับ แค่นี้พอละ
เครื่องยนต์เรือขนาดใหญ่ 100 hp ,200 hp ,300 hp ,500 hp ,1000 hp หรือเครื่องยนต์ที่มีขนาดแรงม้าน้อยกว่านี้หรือมากว่านี้ มันไม่ได้มีมาวางขายเหมือน สบู่ ยาสีฟันหรือผงซักฟอกนะครับ ที่ว่าอยากได้เมื่อไหร่ก็เดินเข้าเซเว่นไปหยิบมาแล้วก็ไปจ่ายเงินที่น้องๆ แล้วก็เกลับบ้านไปใช้ได้เลยซะที่ไหน มันต้องสั่งซื้อล่วงหน้าครับ แล้วล่วงหน้านานขนาดไหน เครื่องยนต์บางรุ่นก็ไม่นานมาก สามเดือน สี่เดือนก็ได้แล้ว แต่บางรุ่นเกือบปีก็มี สั่งซื้อได้ที่ไหน สั่งได้ที่ บริษัทตัวแทนที่มีอยู่ในประเทศ หรือไม่ก็ในประเทศใกล้เคียง และก็เงินก็ต้องถึงด้วยครับ เพราะราคาเครื่องยนต์เรือขนาดใหญ่ๆนี่ราคาหลายล้านบาทไทยครับ ดังนั้นตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันเขาก็แก้ปัญหานี้ด้วยการไปหาเครื่องยนต์มือสองมาใส่แทน ถ้าระบุไว้ในสัญญา แล้วไปเอามาจากไหน ก็ถ้าขนาดแรงม้าไม่เกิน 350 hp ก็ไปเอามาจากเครื่องยนต์รถบรรทุก ที่มีคนนำเข้ามาจากต่างประเทศนั่นแหละครับ และหรือ เครื่องยนต์ของรถ หรือเครื่องปั่นไฟต่างๆที่เขาปลดแล้ว เอามาซ่อมใหม่ ก็ใช้ได้เหมือนกัน แต่อายุการใช้งานก็จะน้อยลงตามไปด้วย
.............................................................................................................................