ก่อนที่คิดจะเรียนทางด้านการออกแบบ เรือ

     21 พฤษภาคม 2566 2:04 น. สวัสดีครับทุกท่าน ห่างหายไปหลายวันเลยทีเดียว เนื่องจากเรี่ยวแรงมันถดถอยลงไปพอสมควร ตอนนี้เปลี่ยนเวลานอนวุ่นวายไปหมดแล้วครับ ตอนกลางวันก็ร้อนตับไหม้เลยทีเดียว ข้างนอก 39 องศา ข้างใน สี่สิบกว่า เรียกว่าเกือบจะสุกจนกินเนื้อตัวเองได้เลยทีเดียว วันนี้นั่งอยู่ดีๆก็นึกออกหลายเรื่อง ก็เลยอยากเอามาลงไว้เผื่อวันข้างหน้าลืมไปเสียดายแย่
             มาถึงวันนี้ประเทศเราก็ได้ผ่านเหตุการณ์สำคัญมาสองเรื่องเรื่องแรกคือการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่32 ที่ประเทศกัมพูชา ผลออกมายังไงก็คงทราบกันดีอยู่แล้ว กับอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมากสำหรับคนไทยทุกคน นั่นก็คือการเลือกตั้งผู้แทนราษฏร หรือ ชื่อย่อว่า เลือกตั้ง ส.ส. นั่นเอง และผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการก็ออกมาแล้วว่า ใครเป็นใคร ใครอยู่ ใครไป ต่อไปก็รอ กกต รับรองทั้งหมดแล้วก็เข้าไปนั่งในสภา เพื่อเลือก นายกรัฐมนตรี และจัดตั้งคณะรัฐมนตรีและรัฐบาล ต่อไป ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะจบอย่างไร เพราะมีตัวแปรสำคัญ ที่ทุกคนในประเทศก็รู้กันดีว่าคืออะไร หลังจากนี้ พวกเราก็ได้แต่รออย่างเดียวเท่านั้นเอง ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้วครับ อ้อ ทำได้อีกอย่างคือ ทำใจครับ แล้วก็ไม่ต้องถามนะครับว่าผมเลือกใคร 55555555 ของใครของมันครับ
            วันนี้เริ่มด้วยเรื่องนี้กันดีกว่าจะว่าเอาของเก่ามาหากินก็ว่าได้ครับ พอดีเอากระดาษที่ใช้แล้วมารองอึแมว หยิบไปหยิบมาก็มาเจอแผ่นนี้เลยเก็บเอาไว้ก่อนมาดูกันครับว่ามันคืออะไรกัน

         หลายๆท่านอาจจะจำได้เพราะผมเอามาลงไว้ในบทความที่ว่าด้วยเรื่องของ"ขนาด"หรือ Dimension หรือ Size นั่นเองที่เอามาลงให้ดูกันอีกรอบก็ไม่มีอะไรใหม่หรอกครับ พอดีนึกขึ้นได้ว่ามีคนเคยถามเรื่องเรียนเกี่ยวกับ Naval Architec หรือถ้าจะเรียนเกี่ยวกับเรื่องการออกแบ เขียนแบบเรือในระดับ มหาวิทยาลัย ต้องเตรียมตัวอย่างไร ผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกันเพราะผมเองก็ไม่ได้เรียนมาทางนี้โดยตรง แต่ก็พอจะบอกได้ประมาณว่า น้องๆที่สนใจด้านนี้ ต้องหันกลับมาดูตัวเองให้ดีๆก่อนว่า เราสนใจมันจริงไหม สนใจหรือ อยากที่จะเป็นคนออกแบบเรือจริงๆหรือ? เพราะต้องบอกตรงๆว่า  สายงานที่รองรับคนที่เรียนในสายนี้ในบ้านเรามีค่อนข้างน้อยมากจริงๆ อู่เรือที่มีคุณภาพขนาดที่ต้องใช้ Naval Architec ก็มีอยู่ไม่กี่อู่เท่านั้น หน่วยงานราชการยิ่งแล้วใหญ่ ที่เห็นก็มีแต่ กรมเจ้าท่าเท่านั้นที่สามารถรับผู้ที่เรียนจบทางด้านนี้เข้ารับราชการ บางคนอาจจะโชคดีหน่อย ได้ไปทำงานในบริษัทเอกชนแต่ไปในทางเป็น วิศกรโครงสร้างทั่วๆไปซะเยอะ และที่สำคัญ มหาวิทยาลัยที่เปิดสอนเท่าเห็นในปัจจุบันก็มีเพียง มหาวิทยาลัย เกษตรฯ เท่านั้น ส่วนวิทยาลัยต่อเรือที่มีอยู่ไม่กี่แห่งก็เป็นการเรียนในระดับ ปวช. และ ปวส. เท่านั้นเอง ซึ่งหลักสูตรของแต่ละที่ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาสอนอะไรให้กับผู้เรียนมั่งและสำหรับผู้ที่ต้องการสอบเข้าไปเรียนในสาขานี้ ถ้าจะให้ผมเดา ก็คงจะเป็นนักเรียนที่เรียนสายวิทยาศาสตร์ เหมือนๆกับที่เรียนเพื่อจะไปสอบเข้าเรียนต่อใน คณะวิศกรรมฯ ของมหาวิทยาลัยทั่วๆไปนั่นเองมั้งครับ เพราะจะต้องใช้ภาษอังกฤษ และการคำนวน เยอะมากจริงๆ ตำราต่างๆเท่าที่ผมเคยเห็นก็เป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้นครับ ภาษา ฟิสิก คณิตฯ สามตัวนี้น่าจะหนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ประเภทยิ่งเรียนยิ่งเหมือนคอมพิวเตอร์เข้าไปทุกทีอะไรประมาณนั้นครับ ส่วนใหญ่ที่ "ผมเห็น" คนที่จบออกมาสายนี้เขาก็เก่งในเรื่องที่เขาเรียนมากันทุกคนนะครับ แต่เรื่องที่เขาไม่ได้เรียนนี่ก็เหนื่อยกันหน่อยเช่น เรื่อง "ศิลป" หรือรูปร่างหน้าตาของเรือหรือส่วนประกอบอื่นๆที่ต้องออกแบบเพิ่มเติมเข้าไปในเรือนี่ค่อนข้างน่าเป็นห่วง
          การออกแบบบ้านหรืออาคารขนาดใหญ่ เขาใช้ สถาปนิคเป็นคนเริ่มเรื่องรูปร่างหน้าตา ทิศทาง อะไรที่สวยๆงามๆ ทั้งภายนอกภายใน สถาปนิคเหมาหมด(อาจจะแยกเป็นภายใน หรือภูมิทัศน์ ฯ) ส่วนเรื่องความแข็งแรงของโครงสร้างและระบบต่างๆเช่น ไฟฟ้า ประปา ฯ เป็นเรื่องของ วิศวกร ในแต่ละสาขานั้นๆเข้ามาจัดการ แยกกันอย่างเด็ดขาด เซ็นแบบแทนกันไม่ได้นะครับ แต่ในการออกแบบเรือ Naval Architec เหมาหมดทุกเรื่องที่เป็นเรือนะครับ ตั้งแต่เสากระโดงจนถึงใบจักรและหางเสือกันเลยทีเดียวเรียกได้ว่า ข้ามาคนเดียวเลยก็ว่าได้ ดังนั้นพวกที่เรียนมาทางสายนี้โดยตรงก็จะมีจุดอ่อนในเรื่องของ ศิลป อยู่พอสมควร เห็นได้จากเรือที่ใช้งานอยู่ในบ้านเราก็ได้ครับ ระหว่างเรือที่ซื้อมาจากต่างประเทศ กับเรือที่ออกแบบและต่อเองในประเทศ ก็จะเห็นความแตกต่างกันได้พอสมควร
          แล้วภาพข้างบนมาเกี่ยวอะไรด้วย ก็ไม่เกี่ยวเท่าไรหรอกครับ แต่ก็คงจะพอเป็นพื้นฐานเล็กๆน้อยๆ สำหรับผู้ที่จะเข้ามาในวงการนี้บ้าง ไม่มากก็น้อยครับ อย่างที่ผมบอกไปข้างบนนั้นว่า ผมเองก็ไม่ได้เรียนมาทางนี้โดยตรง และไม่ทราบว่าหลักสูตรที่เขาใช้สอนนักศึกษาสายนี้เป็นอย่างไรบ้าง แต่จากที่ผมทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้มาถึงวันนี้ก็สามสิบกว่าปีได้มั้งครับ ทำให้ผมคิดว่าเรื่องของ ศิลป ก็มีความสำคัญในการออกแบบเรือมากเหมือนกัน ยิ่งเป็นเรือ สปีดโบ้ท หรือ เรือยอร์ชหรูๆแล้ว ยิ่งสำคัญมากๆเลยทีเดียว นอกจากจะออกแบบได้แล้วคำนวนค่าต่างๆได้แล้ว รูปร่างหน้าตาก็สำคัญนะครับ การฝึกมือเพื่อ สเก็ตรูปร่างต่างๆก็มีความสำคัญไม่แพ้กันเลยทีเดียว บางครั้งในการประชุมกับผู้ว่าจ้าง นอกจากภาพที่เราเตรียมไปนำเสนอแล้ว ก็ยังต้อง สเก็ต หรือ วาดกันด้วยมือสดๆก็มีนะครับ เพราะบางทีความคิดที่เกิดในการประชุมตอนนั้น มันหาภาพมาสนับสนุนไม่ได้ก็ต้องใช้ ปากกา หรือ ดินสอและกระดาษเอสี่นี่แหละครับ มาช่วยแก้ปัญหาหรือข้อสงสัยต่างๆ ให้มันได้ข้อสรุปและ หรือ จบลงด้วยดีนั่นเอง
ยิ่งมาถึงปัจจุบันนี้ การนำเสนองานแข่งกันดุเดือดมากๆ ถึงขั้นต้องทำ อนิเมชั่นมาแข่งกันเลยก็มี ผมเองก็รับหน้าที่นั้นอยู่บ่อยๆเหมือนกัน แก้ปัญหาด้วยฝีมือและลายมือไก่เขี่ยอย่างที่เห็นนี่แหละครับ รอดมาหลายงานแล้ว
          ตีสามครึ่งแล้วครับ หวังว่าท่านที่เข้ามอ่านในวันนี้ จะได้ประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ สำหรับคืนนี้ขอ ราตรีสวัสดิ์ครับทุกท่าน
3:32 น.

 24 พฤษภาคม 2566 12:47 น. สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้มาเร็วกว่าทุกวัน เที่ยงกว่าๆเอง ตาค้างมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ เพราะนอนกลางวันเมื่อวานมากไปหน่อย แค่อยากบอกเฉยๆอะครับ อย่าถือสากันเลย
         จากบทความตอนที่แล้ว จะว่าไม่เกี่ยวกันมันก็ไม่เฉิงครับ ความรู้ที่ผมได้มาระหว่างการทำงานตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือ มันก็วนไปมาอยู่กับเรื่องเดิมๆนั่นเองครับ พื้นฐานเดิมจากอดีตเมื่อหลายสิบปีก่อน บางอย่างเป็นร้อยปีก็ยังใช้มาจนถึงปัจจุบันก็มี ที่เห็นชัดๆก็พวก ใบจักร หางเสือเรือ รูปร่างของเรือ และการคำนวนต่างๆในด้านความแข็งแรงของตัวเรือและส่วนประกอบต่างๆ ก็ได้มาจากสูตรหรือ สัมการทางคณิตศาสตร์ที่มีมาตั้งแต่โบราณและได้รับการพัฒนาต่อยอดมาเป็นระยะจนถึงปัจจุบัน จากวัสดุที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา จากไม้ มาเป็นเหล็ก แล้วก็มีอีกสารพัดวัสดุที่นำมาใช้ต่อเรือ สมการที่ใช้ก็เปลี่ยนไปตามวัสดุที่ใช้เหมือนกัน แต่พื้นฐานก็ยังคงเป็นอะไรที่ลอยน้ำได้อยู่ดี ไม่ว่าจะใช้วัสดุอะไรมาทำการต่อเรือก็ตาม การคำนวนแรงลอยตัว น้ำหนักเรือและน้ำหนักบรรทุก ฯ ก็ยังคงใช้สมการเดิมๆอยู่ดี
          ตราบใดก็ตามที่เรือยังคงลอยอยู่ในน้ำ หลายๆอย่างก็ยังคงเหมือนเดิมอยู่นั่นเอง แต่ก็ยังมีคนคิดนอกกรอบอยู่ดี เอาเรือไปผสมกับรถยนต์ เอาเครื่องบินไปผสมกับเรือ เอารถยนต์ไปผสมกับเครื่องบิน แล้วก็ไม่ได้เพิ่งจะเกิดมาเมื่อไม่กี่ปีซะเมื่อไหร่ มันมีมานานหลายสิบปีแล้วด้วยซ้ำและก็มีพัฒนาการมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน
          หักมุมมาที่เรื่องของการออกแบบและเขียนแบบเรือจำลองกันมั่ง ก็เหมือนกับการทำงานกับเรือจริงๆนั่นแหละครับ และผมก็ได้ทำบทความที่ผมคิดว่าจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการทำงานทางด้านนี้ไปหมดแล้วตามความรู้ทั้งหมด ที่เหลือก็เป็นแนวคิดและจินตนาการของแต่ละคนแล้วครับ
          เมื่อตอนบ่ายเผลอหลับไปนานเลยครับ ตื่นมาเกือบสองทุ่มก็ต้องรีบกินข้าวกินยา เพราะพรุ่งนี่เข้าต้องไปตรวจเลือดตามหมอนัด เฮ้อ เมื่อไหร่มันจะจบซะทีก็ไม่รู้
          กลับมาที่เรื่องของเรือจำลองมั่งดีกว่า เอาเป็นว่ามาลองเริ่มต้นกันใหม่เหมือนว่าไม่เคยรู้เรื่องกันมาเลยดีกว่าครับ สำหรับผู้ที่อยากจะทำเรือจำลองและ หรือ ผู้ที่แค่อยากจะรู้เกี่ยวกับเรื่องเรือ แค่อยากรู้เฉยๆก็ได้เพื่อเอาไว้คุยกับคนอื่นได้บ้างเวลาไปเที่ยวทางน้ำโดยต้องลงเรือ ไม่ว่าจะลำเล็กหรือลำใหญ่
          ธรรมชาติของมนุษย์ ก่อนที่จะชอบจะรักอะไร หรือรักใครก็ต้อง "เห็น" สิ่งนั้นหรือคนๆนั้นก่อนหรือ ต้องได้ยินคนอื่นกล่าวถึงคุณสมบัติ คุณงามความดี ความสวยงาม ฯ ก่อนใช่ไหมครับ เราถึงจะเกิดความ "ชอบ" หรืออยากได้ หรืออย่างน้อยๆก็อยากเห็นอีกสักครั้งเป็นบุญตา นี่แหละครับอารมณ์นี้ก็จะเป็นตัวขับเคลื่อนเรา เพื่อไปให้ถึงความต้องการของเรานั่นเอง ทีนี้สมมุติว่าเราได้เห็นเรือสักลำหนึ่ง จากในภาพยนต์เรื่องหนึ่งแล้วเกิดความอยากที่จะมีไว้ในครอบครอง เราจะทำอย่างไร
          แรกสุดเลยเราก็ต้องพยายาม "หา" ภาพของเรือลำนั้นมาดูให้ได้มากที่สุด ในภาพเหล่านั้นก็อาจจะมีข้อมูล รายละเอียดต่างๆของเรือลำนั้นพอสมควร เช่น เป็นเรือประเภทไหน ขนาด กว้าง ยาว ลึก ฯ เท่าไหร่ ความเร็วสูงสุด ขนาดเครื่องยนต์ ฯลฯ
          ถ้าเป็นคนรวยมากๆ ก็จะทำแค่สั่งคนไปหามาซิว่า จะต่อเรือลำนี้ได้ที่ไหน ราคาเท่าไหร่ แล้วจ่ายเงินไป จบ ได้เรือมาตามต้องการ
         แต่พวกเราชาวเด็กเล่นเรือโมเดล มันก็ยากมากที่จะทำอย่างนั้นได้ ก็เลยต้องมานั่งเหลาไม้และขัดๆๆๆๆๆ จนได้เรือลำที่อยากได้ แม้มันจะไม่ใกล้เคียงในภาพที่เห็นเลย แต่ก็อดดีใจไม่ได้อยู่ดี เพราะเป็นเรือที่เราทำขึ้นมาเอง .........เอ คืนนี้ชักจะยืดยาวไปแล้วครับ คิดไรไม่ค่อยออกเลย วนไปวนมาอยู่แถวๆนี้เอง เอางี้ มาแยกเป็นหัวข้อไปเลยก็แล้วกัน จะได้ดูกันง่ายๆ
       ขั้นตอนการทำเรือจำลอง
   1 หาเรือที่ต้องการ
   2 เขียนแบบเรือลำนั้น
   3 ขยายแบบเรือให้ได้ตามขนาดที่ต้องการ
   4 หาวัสดุตามที่กำหนดไว้ในแบบมาให้ครบ
   5 หาเครื่องมือที่จำเป็นต้องใช้
   6 ตัดและขัดแต่งวัสดุ ตามที่กำหนดในแบบ
   7 นำชิ้นส่วนต่างๆที่ตัดและขัดแต่งแล้วมาประกอบเข้าด้วยกัน
   8 เก็บงาน พ่น หรือทาสี ให้เรียบร้อย และทำฐานสำหรับวางเรือจำลอง
   9 เอาไปตั้งในตำแหน่งที่ต้องการ หรือ ส่งลูกค้า เป็นอันจบ
               
             ทั้งหมดก็มีแค่นี้เองครับวิธีทำเรือจำลองในกรณีที่อยากจะทำเองแต่ก็ยังมีอีกวิธีหนึ่งนั่นก็คือไปหาซื้อ"ชุด kit" หรือเรือจำลองที่เขาทำมาขายโดยที่เราต้องเอามาประกอบเองมีทั้งที่เป็นไม้และพลาสติกมีให้เราเลือกมากมายหลากหลายประเภทและขนาดขึ้นอยู่กับกำลังเงินของเราครับคุณภาพของชิ้นงานก็ขึ้นอยู่กับราคามากอยู่เหมือนกันสมัยผมเด็กๆก็ชอบไปยืนเกาะขอบตู้ดูเหมือนกัน เพราะมันสวยดีแต่ไม่มีเงินซื้อ
            นี่ก็ตีสีกว่าๆละ ไว้พรุ่งนี้มาว่ากันต่อดีกว่า จะได้เอาเรื่องเก่าๆมาเล่าใหม่อีกหน เผื่อใครที่ขี้เกียจเข้าไปค้นในกล่องบทความ ซึ่งมาถึงวันนี้ก็ชักจะเยอะแล้วครับ เวปนี้เพิ่งจะครบรอบ ห้าปีไปเมื่อวานนี้เอง ดีใจจังที่ยังมีคนเข้ามาอ่านอยู่เรื่อยๆ ต้องขอบคุณทุกท่านที่สนใจและนำไปเผยแผ่ต่อด้วยครับ ขอบคุณจริงๆ คืนนี้ ราตรีสวัสดิ์แล้วครับทุกท่าน
25-5-2566 4:12 น.