17 เมษายน 2566 12:28 น. สวัสดีปีใหม่ครับทุกท่าน หวังว่าทุกท่านได้รับความสุขสนุกสนานกลับมาจากการได้ไปเที่ยว หรือกลับบ้านไปพบกับพ่อแม่และญาติพี่น้องที่บ้านเกิด เอามาเป็นพลังในการสู้ชีวิตในเมืองใหญ่กันต่อไปนะครับ
เมื่อตอนกลางวัน ฝนตกลงมาพอให้หายร้อนไปได้พอสมควร หวยก็ออกตอนบ่าย พอตอนเย็นเห็นบิลค่าไฟฟ้าแล้ว ร้อนกว่าเดิมอีกครับหลายๆท่านก็คงจะเป็นแบบผมมั้งครับ อากาศว่าร้อนแล้วเจอบิลค่าไฟฟ้าเข้าไปร้อนกว่าเดิมอีก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
เมื่อวันก่อนฉลองสงกรานต์ด้วยการกิน เยอะไปหน่อย เกือบไม่รอด มันร้อนจริงครับสองทุ่มกว่าๆ ยังร้อนอยู่เลยกินอิ่มมากๆ หัวใจก็เต้นเร็วอีก เกือบไปละ พอมาอีกวันทีนี้หนักเข้าไปใหญ่ ท้องเสียอย่างหนัก เข้าห้องน้ำไปสามหน กินคาบอนไปสามแคปซูล มีแก๊สในกระเพาะอีก ทรามานน่าดู ทั้งแน่น ทั้งปวด นอนคิดอยู่ว่าคงได้เวลาแล้วมั้งก็ดีเหมือนกัน จบๆซะที นอนหลับๆตื่นๆจนเช้า อาการจุกเสียดแน่นท้องก็หายไปหมด เช้าพอดี รอกินข้าวเช้ากินยา แล้วก็นอนต่อ ยาวเลยทีนี้ นึกว่าจะไม่ต้องตื่นแล้วซะอีก แต่ก็ยังตื่นมาตอนบ่ายแก่ๆ หมดแรงไปเยอะครับ ทั้งๆที่หมอก็เคยเตือนเรื่องอาหารการกินเอาไว้แล้ว แต่มันก็อดใจไม่ได้ซัดซะพุงกางเลย แถมน้ำจิ้มซีฟูดอีกต่างหาก คนที่มีโรคประจำตัวนี่เหมือนโดนคำสาปนะครับ ทำอะไรที่คนปรกติเขาทำกันก็ไม่ได้ ในเมื่อยังตื่นขึ้นมาได้ก็ต้องใช้ชีวิตกันต่อไป มีอยู่เรื่องนึงความจริงผมก็ไม่อยากเอ่ยถึงสักเท่าไร แต่เมื่อเทียบกับตัวเองแล้วคิดว่าเอามาเล่าสู่กันฟังดีกว่า อย่างน้อยๆ ก่อนที่คิดจะทำอะไรลงไป ก็ชั่งใจกันหน่อยก็ดี คนข้างหลังยังมีอยู่ตั้งหลายคน คือ ก่อนวันสงกรานต์เพียงไม่กี่วัน มีข่าวที่น่าเสียใจลอยมาจากสะพานพระรามแปด ว่า มีผู้หญิงกระโดดจากสะพาน อีกแล้ว กู้ภัยกำลังช่วยกันค้นหาช่วยเหลือกันอยู่ เวลาผ่านไปข่าวก็มาอีกว่าเจอแล้ว แต่ช่วยไม่ทัน เวลาก็เดินของมันไปเรื่อยๆ ข่าวก็มาอีกว่า มีคนเห็นว่า เธอผู้นี้กำลังทะเลาะกับผู้ชายคนหนึ่ง แล้วอยู่ๆก็กระโดดลงแม่น้ำไป จริงเท็จก็ไม่รู้ แต่กระโดดน่ะ จริง ช่วยไม่ได้ก็จริง หนึ่งชีวิตหายไปแล้วด้วยการตัดสินใจของเจ้าตัวเอง ผมที่นั่งอยู่ที่บ้านด้วยร่างกายที่ชำรุดขนาดนี้ ได้ยินข่าวนี้แล้วมันรู้สึก อึดอัดหาวเรอ ผะอืดผะอม ยังไงก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน ไอ้เราจะตายมิตายแหล่ วันไหนก็ยังไม่รู้ ไปไหนก็ไม่ได้ บางวันแค่นั่งเฉยๆยังแย่เลย สุดจะบรรยายจริงๆครับ ก็เข้าใจชิวตคนพอสมควรนะครับอยู่มาจนอายุจะเข้าเลขหกอยู่แล้ว ว่ามันคิดไม่เหมือนกัน การตัดสินใจในเหตุการณ์ต่างก็ย่อมไม่เหมือนกัน เรื่องเดียวกัน คนนึงจะเป็นจะตาย แต่กับอีกคนนึงกลับกลายเป็นเรื่องขี้ฝุ่นซะงั้น เรื่องอย่างนี้หลายท่านคงเคยพบเจอมากับตัวเองไม่มากก็น้อย แล้วทำไมถึงเป็นแบบนั้น ฉันรู้สึกแย่กับเรื่องนี้ เธอก็ต้องเป็นเหมือนฉันสิ เล่นกีฬา ทีมเราแพ้ นักกีฬาทุกคนต้องเสียใจนะ ต้องเศร้านะ กองเชียร์ก็ต้องเศร้าด้วยนะฯลฯ มันไม่ใช่มั้งครับ แม้ว่าเกมส์นี้จะเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับใครบางคนในทีมก็ตาม แพ้แล้วเป็นไง แพ้แล้วก็ไปซ้อมให้เก่งขึ้นสิครับ ส่วนคนที่เล่นไม่ได้ต่อไปก็ส่งต่อให้คนรุ่นต่อไปสิครับหรือคุณจะเล่นไปยันแก่ตายคาสนามเลยว่างั้น มันก็ไม่ใช่อีกนั่นแหละครับ เรื่องความรักก็อีก เป็นสาเหตุยอดฮิตในการเอามาอ้างเพื่อทำร้ายตัวเองและทำลายล้างฝ่ายตรงข้าม ไม่อยากจะโม้ ผ่านมาได้ถึงตอนนี้โดนหักอกมานับครั้งไม่ได้ก็แล้วกัน ก็ไม่เห็นจะต้องไปทำอะไรใคร หรือจบชีวิตตัวเอง แต่ก็ยอมรับตรงๆว่า หวาดเสียวอยู่เหมือนกัน เพราะช่วงเวลาอย่างนั้น มันหูอื้อตาลายไปหมด ยิ่งกว่าคนเมาเหล้าซะอีก เห็นช้างตัวเท่าลูกหมาก็แล้วกัน ใครพูดอะไรก็ไม่ได้ยิน คิดว่าตัวเองตัวใหญ่เหมือนยักษ์ อะไรขวางทาง ทั้งเตะทั้งทุบ สารพัดที่จะทำได้ พอเหนื่อยเหงื่อออกมานั่งพัก อ้าว ไรฟะหยดติ๋งๆ เลือดนี่หว่า ออกมาตามสันมือมั่ง หน้าแข้งมั่ง ไม่รู้ไปหวดอะไรมานึกไม่ออกเหมือนกัน อะไรประมาณนั้น ยากมากครับที่คนอื่นจะมาเข้าใจเราในเวลานั้น(นั่นคือควาคิดของเราเองในตอนนั้น เพราะเราไม่อยากฟังเหตุผลของคนอื่นนั่นเอง)คิดอย่างเดียวว่า ที่เราคิดและทำมานั้นมันถูกต้องแล้วทุกอย่าง ใครอย่ามาว่าเรานะ เธอหรือเขานั่นแหละที่ผิด ไม่ต้องมาบอกเลยว่าให้เราใจเย็นๆ ไปบอกเขาหรือเธอนั่นแหละให้กลับมาหาฉันสิถึงจะถูก ถ้าไม่กลับมา ฉันจะฯลฯ..............นี่แหละครับ กระบวนการคิดก็จะวนไปมาอยู่แค่นี้ ลืมหมด พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนฝูงหรือแม้แต่ลูกของตัวเอง ทำทุกวิถีทางให้เธอหรือเขากลับมาอยู่ข้างๆเราให้ได้ คิดอยู่แค่นี้จริงๆครับ ส่วนใหญ่ก็เห็นเป็นข่าวเศร้าทั้งนั้นเลย น่าเสียใจแทนพ่อแม่ญาติพี่น้องจริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่าบ้านเรามีหมอเฉพาะทางในเรื่องพวกนี้หรือเปล่า แต่ผมว่านะถึงมีก็ช่วยไม่ได้อยู่ดี เพราะอาการอย่างนี้มันจะเกิดขึ้นทันทีทันใดหลังจากคุยกันไม่รู้เรื่องไม่นาน หรืออาจจะเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเลยก็ได้ ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองรอดมาได้ไง แต่นั่นคือครั้งแรกๆเท่านั้นเองครับ โดนบ่อยๆเข้าเลยสบายละ ชินละเจอมุขนี้บ่อย หายไปเฉยๆก็มี เออก็ไปดิ โทรมาบอกก็มี ก็ยังดีที่บอก เราไม่ดีพอ(หมายถึงเขา)เออ กุดีกว่าเมิงว่างั้น ฮ่าๆๆๆๆ ฯ ก็ต้องทำใจปล่อยไปเลยครับ อย่ามายืดเยื้อจะเสียพลังชีวิตเปล่าๆ ถ้าผ่านตรงนั้นมาได้นี่เรื่องอื่นๆก็สบายแล้วครับ มาตั้งใจทำมาหากินกันดีกว่ามีเงินเยอะเข้าไว้ได้เปรียบแน่นอน เพราะทั้งเขาและเธอที่ท่านหมายปองนั้นก็ต้องการความมั่นใจว่ามาอยู่ใกล้ๆเราแล้วไม่อดตายแน่ๆ หรืออย่างน้อยๆเจอคนดีๆที่มีทุกอย่างแล้วเขาจะได้สบายใจว่าเราก็มีเหมือนกันไม่ได้จะมาถ่วงมาเกาะเขาเท่านั้นเอง สบายใจทั้งสองฝ่ายรวมถึงญาติพี่น้องด้วย ประเภทกัดก้อนเกลือกินนี่บอกตรงๆว่า สมัยนี้ก็มี แต่ก็ยากมากที่จะฟื้นตัวได้เร็วและถ้ามีลูกด้วยกันนี่ไปกันใหญ่แน่ๆครับ ไม่พ้น ปู่ย่าตายายอีกถ้ามีก็ดีไป แต่ถ้าไม่มีนี่หนักเลยนะครับ วัยหนุ่มสาวเป็นวัยที่กำลังแรงกายเหลือเฟือมากอะไรที่ป้องกันได้ก็ทำเถอะครับ สมัยนี้ วิธีคุมกำเนิดมีเยอะแยะไป ง่ายๆก็ไปหยอดเหรียญกดถุงยางอนามัยตามห้องน้ำในห้างก็ได้มีอยู่ทั่วไป ในเซเว่นก็มี ไม่ต้องอายเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เรื่องความรักกับเรื่องทุนทรัพย์นี่มันจะมีปัญหามาพร้อมๆกันเสมอ ทุนน้อยปัญหาก็มาเร็วและใหญ่หน่อย ทุนหนาปัญหาก็จะเล็กลงแต่ก็จะมีปัญหาอื่นที่ใหญ่กว่ามาแทนที่นั่นคือ เมื่อมีทุนหนาก็จะมีตัวเลือกมากตามไปด้วยทีนี้แหละครับ สงครามเกิดแน่ๆ วิธีแก้ผมขอบอกเลยว่า ไม่มีครับ ใครจะบอกว่าไม่จริงก็ทำอย่างนั้นสิ ทำอย่างนี้สิ ต้องระวังเรื่องนั้นเรื่องนี้ บอกได้เลยว่าเสียเวลาเปล่าๆครับ เลือกเอาว่าจะเจ็บมากเจ็บน้อย หรือเจ็บนานๆดีกว่าไหมครับ เพราะมันอยู่ที่นิสัยของแต่ละคนจริงๆแล้วก็ไม่เหมือนกันด้วย หามาตราฐานไม่ได้อีกต่างหาก ผู้หญิงที่อกหักมาก็บอกว่า พวกผู้ชายก็เหมือนกันหมด กลับกันผู้ชายก็บอกว่าผู้หญิงก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ อ้าวแล้วมันยังไงล่ะครับ ดวงครับ หรือโยนให้กรรมก็ได้ครับ ทำยังไงก็ได้อย่างนั้น ทำดีไปแล้วเขาไม่ดีกับเราแต่ไปดีกับคนอื่นแล้วเราจะเก็บเขาไว้ทำมะเขืออะไรล่ะครับ บางคนก็เห็นๆอยู่ว่าก่อนมาเจอเราฝ่ายตรงข้ามก็เป็นอย่างนั้นมาก่อน ก็ยังอยากที่จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเขาหรือเธออีก ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงเอาเองสิครับ รักตัวเองให้มากเข้าไว้ครับแล้วเรื่องเลวร้ายทั้งหลายจะผ่านไปได้ด้วยดี อะไรหรือใครที่มันทำร้ายเรา อย่าไปอยู่ใกล้มันครับ รีบออกมาให้ห่างโดยเร้ว รีบกลับเข้าไปหาครอบครัวของเรา ให้เขาปกป้องเรา ช่วยเราครับ หรือไปหาเพื่อนก็ได้ แต่ถ้ามันรุนแรงก็อย่าอายครับ ตำรวจและหน่วยงานของรัฐฯหลายแห่งช่วยคุณได้ แค่คุณถอยออกมาชีวิตคุณก็มีค่ากลับคืนมาตั้งเยอะแล้วครับ ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ชีวิตมีค่าทั้งนั้นครับเพียงแค่คุณเดินถอยหลังเท่านั้นเอง ถอยไปหาคนที่รักคุณ เพื่อนคุณ พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ฯ แค่นี้ อนาคตที่ดีก็รอคุณอยู่ข้างหน้าแล้ว
หมอแผนกจิตเวชเขานัดผมปลายเดือนนี้เพื่อรักษาอาการนอนไม่หลับของผม ที่ผมบ่นอยู่บ่อยๆ อาจจะต้องให้ยาเพิ่มประเภทยานอนหลับอะไรประมาณนั้น เพราะถ้าให้ไปนั่งพูดคุยทั่วๆไปน่าจะยาก เพราะปัญหามาจากเศษฐกิจภายในบ้านผมเองบวกกับร่างกายที่ชำรุดอยู่ในตอนนี้ เลยเครียดมากหน่อย ไม่หน่อยล่ะครับ เยอะเลยทีเดียว แต่ก็ทำไงได้ สู้กันต่อไป ยังไงก็ไม่ถอยอยู่แล้วครับ ผมมีคติอยู่ว่า ถอยแล้วหกล้มครับ ฮ่าๆๆๆๆๆ แต่ก็ล้มอยู่บ่อยๆเพราะถอยนี่แหละครับ ดีกว่าเดินต่อแล้วพังถามว่าท้อไหม ก็บอกเลยว่า บ่อยไป ท้อยังไงก็ต้องมีชีวิตต่อไปครับ หัวใจยังเต้น หายใจได้คล่องอยู่ กินของอร่อยได้เหมือนเดิม นี่ก็ว่ารอเงินมาอีกที่จะไปกินซูชิซะหน่อย โดนหมอขู่มาเมื่อปีที่แล้วเมื่อผมถามหมอว่า ชาบู กับซูชิ กินได้ไหมครับ หมอบอกว่าได้แต่ห้ามกินน้ำจิ้มนะ เพราะเคยมีคนป่วยหัวทิ่มคาหม้อชาบูมาแล้ว....ว่างั้น ฟังแล้วน้ำลายติดคอเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
โอ้ นี่ก็ดึกแล้วหนา ก็ต้องกล่าวคำ ราตรีสวัสดิ์ กับทุกท่านแล้วครับ ขอให้ทุกท่านเดินทางกลับอย่างปลอดภัย แล้วก็นอนหลับสบายกันนะครับ
2:48 น.