แบบเรือบรรทุกซุง

   28 กุมภาพันธ์ 2566 22.54 น. สวัสดีครับทุกท่าน จากเมื่อคืนเราดูรูป
ข้างล่างนี้กัน

        เป็นรูป Frame หรือ Section หรือ กงเรือ ที่ 18-21 หรือ FR No. 18-21
นั่นเองครับ แล้วมันอยู่ตรงไหนของเรือ เราก็ต้องเอาแบบ
CONSTRUCTION PROFILE มาดูประกอบกันไปด้วยครับ


           ในแบบ CONSTRUCTION PROFILE นี้จะมีแบบอยู่สองแผ่นครับ 
แผ่นแรกจะแสดงโครงสร้างของรูปตามยาวที่กลางลำ(ญฑฯโณศฎ)และ
โครงสร้างที่ด้านข้างเรือ(SIDE PLAN) sheet 1 of 2 ส่วนแบบอีกแผ่นหนึ่ง
ก็อยู่ข้างล่าครับ

           แบบข้างบนนี้เป็น sheet 2 of 2 แสดงรูปโครงสร้างของ
MAIN DECK ,TANK TOP(พื้นในระวางบรรทุก) และ BOTTOM PLAN หรือ
โครงสร้างที่ท้องเรือครับ ในกรณีของแบบทั้งสองแผ่นนี้ เขาจะใส่รายละ
เอียดของเหล็กหรือโครงสร้างเป็นสองแบบคือ แบบหนึ่งก็ใช้ลูกศรชี้บอก
ที่ตัวโครงสร้างนั้นโดยตรง ส่วนอีกแบบหนึ่งก็จะมาเขียนอธิบายไว้ด้านล่าง
ของรูปนั้นๆว่า ระยะจากไหนไปไหน ใช้เหล็กอะไรบ้างและระยะระหว่าง
กง หรือ FRAME SPACING มีค่าเท่าไหร่ เพราะเรือบางลำ ระยะกงในช่วง
ระวางบรรทุกจะไม่เท่ากันกับระยะกงที่หัวและท้ายเรือก็มีออกบ่อยเหมือน
กันครับ มีแบบสามแผ่นนี้ก็สามารถหาน้ำหนักเหล็กที่ใช้ต่อสร้างตัวเรือลำ
นี้ได้ค่อนข้างแม่นยำเลยทีเดียวครับ

        ข้างบนนี้คือแบบ 3D ที่เอาข้อมูลจาก รูปบนสุดมาทำครับที่ท้องเรือสี
แดงๆนั่นคือเหล็กรูปตัว L ขนาด L 250x150x8 mm. ครับ ความจริงสอง
ข้างต้องเหมือนกันคือมี PILLAR หรือเสาอยู่ข้างซ้ายด้วยแต่ผมไม่ได้ใส่
ส่วนตรง KEEL หรือกระดูกงูจะเห็นว่าด้านหนึ่งเรียบแต่อีกด้านหนึ่งมีเหล็ก
ตัว L250x150x8 mm. ตั้งติดอยู่และมีรูปขนมปังสีขาวอยู่ตรงกลาง นั่นก็คือ
ทุกระยะที่มี FR No. อยู่ก็จะมีเจ้าเหล็กตัวนี้ดามที่กระดูกงูในแนวตั้งและใน
รูปขนมปังนั้นคือเขาเจาะเป็นช่องรูปนั้นไว้ติดตั้งเหล็กฉากดามกระดูกงู
ตามแนวยาวนั่นเองครับ

       ตามข้างบนเลยครับ ตัว PIPE คือท่อเหล็กผ่าครึ่งแล้วดามใส้ในด้วย
เหล็กแบน ติดไว้ข้างเรือที่ชาวเรือเรียกว่า ราโท ครับ หรือตรงๆตัวเลยก็คือ
เป็นกันชนข้างเรือส่วนใหญ่จะมีแค่เส้นเดียวและมันยังทำหน้าที่เสริมความ
แข็งแรงตรงมุมข้างเรือด้วย ลองนึกถึงขันตักน้ำอาบดูก็ได้ครับ ถ้าเป็นขัน
เหล็กที่ไม่มีขอบปขอบของขันมันก็จะเสีได้ง่ายเวลาใส่น้ำมากๆ มันจะโย้
ไปโย้มาเวลาเราถือมือเดียว แต่ถ้าเป็นขันที่มีขอบหนาๆมากกว่าตัวขันน้ำ
ก็จะรับน้ำหนักได้ดีและไม่เสียรูปเวลาจับยกนั่นเอง แต่ถ้าเป็นเรือเหล็กทั่วๆ
ไปถ้าผู้ออกแบบคำนวนแล้วว่าขอบตรงนี้ไม่เข็งแรงพแเขาก็จะเสริมด้วย
แผ่นเหล็กที่หนากว่าแผ่นเปลือกเรือตรงนี้เป็นแนวยาวจากหัวเรือไปท้าย
เรือเลยก็มีครับ ส่วน ROUND BAR ก็เป็นเหล็กกลมยาวหรือที่เรียกกันว่า
เหล็กเพลานั่นแหละครับ แต่พอดูในแบบ MIDSHIP เราจะเห็นมันเป็น
วงกลมและถูกชี้บอกขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไว้ ของลำนี้น่าจะ 38 มม. ครับ
หรืออีกชื่อที่ช่างบ้านเราเรียกว่า ลูกแก้ว ก็เพราะในแบบมันกลมเหมือน
ลูกแก้วนั่นเอง ใส่มาเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของแนวต่อแผ่นตามยาวเรือที่
เป็นมุมหรนือ CHINE นั่นเองครับ เพราะถ้าไม่ใส่เหล็กเพลาตัวนี้ ก็จะกลาย
เป็นแผ่นเหล็กเปลือกเรือสองแผ่นมาเชื่อมติดกันเป็นมุมนั่นเอง ซึ่งจุดนี้
จะเป็นตำแหน่งที่ต้องโดนอะไรหลายๆอย่างมาปะทะได้ง่ายและเสี่ยงต่อ
ความเสียหายนั่นเองครับ


          เอามาให้ดูหลายๆมุมครับจะได้เข้าใจได้มากขึ้น

          มาดูกันชัดๆกับช่องที่เจาะเป็นรูปขนมปัง เมื่อเอาเหล็กฉากใส่เข้าไป
ช่างก็จะเชื่อมเหล็กฉากติดกับตัว L ตรงที่เส้นจากวงกลม A ชี้ไปเท่านั้น
ครับแค่สองที่เท่านั้นเอง แล้วจะอยู่หรือ???? อยู่ครับ ถ้าคำนวนแล้วไม่แข็ง
แรงพอ เขาก็จะเสริมแผ่นเหล็กสี่เหลี่ยมผืนผ้าชิ้เล็กๆเข้าไปอีกหนึ่งชิ้นครับ

       แฮ่ๆ ลายมือคืนคุณครูไปหมดแล้วครับ ตามภาพข้างบน เขาก็จะตัด
แผ่นเหล็กเสริมเข้าไปยันเอาไว้อีกตัว ที่ช่างบ้านเราเรียกว่า ตัวกันล้ม นั่น
แหละครับ

           เหล็กแนวตั้งสีน้ำตาลคือ L 250x150x8 mm. ดามกระดูกงูตามแนว
ตั้ง เหล็กฉากสีเขียว A100x100x8 mm. ดามกระดูกงูตามแนวนอนครับ


      เหล็กตัว T สีเหลืองที่เห็นนั้น ตามแบบ MIDSHIP SECTION เขาให้
หัวและท้าย "ชน"กับเหล็ก L 250x150x8 mm. ครับ ดังนั้นตัว T นี้จะมี
ความยาวไม่มากเหมือนเหล็กฉากสีเขียว ที่วิ่งทะลุผ่านไปเลยทีนี้เราจะรู้
ได้ไงว่าอะไรชนกับอะไร อะไรทะลุผ่านไปเลยก็ดูที่สัญญาลักษณ์ครับ

       ในวงกลมสีแดงสามวงบน จะมีหัวลูกศรชนกับเหล็กตัว T 150x250x8
mm. สองวง ส่วนอีกวงบนขวาสุด หัวลูกศรชนกับ KEEL ครับ ความหาย
ก็คือเหล็กตัว L250x150x8 mm. ที่เราเห็นประกอบเป็น กงเรือนั้น ตัวบน
ถูกแบ่งเป็นสามชิ้นมาชนกับตัวที่ ที่ยาวตลอด ส่วนสามวงกลมด้านล่างคือ
ที่ว T สองตัวซ้ายในวงกลม มีลูกศรอยู่ที่ปลายเส้นทั้งสองข้าง เปรียบ
เสมือนหัวลูกศรวิ่งทะลุตัว T นั่นเอง นั่นก็คือ เหล็กตัว L250x150x8 mm. ที่
เราเห็นอเป็นกงอยู่ที่ท้องเรือจะยาวตลอดจากด้านหนึ่งที่มีหัวลูกศรชนกระ
ดูกงูมาสุดอีกด้านที่เป็น BKT หรือที่ช่างเรียกกันว่า หูช้างนั่นเองซึ่งตรงนั้น
จะเป็นผนังที่ตั้งจากท้องเรือสูงขึ้นไปถึงขอบระวางบรรทุกของเรือครับ ดัง
นั้น ตัว T ด้านบนจะเป็นเหล็กชิ้นที่ยาวเท่าๆกับเหล็กฉาก แต่ตัว T ด้านล่าง
จะถูกซอยเป็นท่อนๆ เท่ากับระยะของกง หรือ FRAME SPACING นั่นเอง


          เรื่องการอ่านแบบคร่าวๆก็มีประมาณนี้ครับ เรื่องพวกนี้มาเล่าสู่กัน
ตอนนี้ดูเหมือนจะเห็นว่ามันไม่ได้ยากเลยสักหน่อย แต่ตอนที่ผมเข้ามา
ทำงานช่วงแรกๆนี่จัดเป็นการบ้านที่หินมากๆ เพราะถามใครเขาก็ไม่อยาก
จะบอก ต้องแอบจำเอาเวลามีใครมาถามหรือเวลาไปดูงาน เป็นอะไรที่อึด
อัดมากๆครับ ตำราก็ไม่มี หนังสือก็ไม่มี มีแต่แบบที่เสร็จแล้วให้ดู ฯลฯ แต่
ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกท่านที่เข้ามาอ่านบทความนี้จะรู้เรื่องทั้งหมดนะ
ครับ นี่เป็นแค่เพียงเกร็ดความรู้เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ครับ ดูแล้วไม่รู้
เรื่องก็ไม่ว่ากันครับ งานใครงานมัน ผมแค่เพียงมาถ่ายทอดสู่กันเท่านั้นเอง
เผื่อมีใครสนใจจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาเหมือนผมสัญญาลักษ์ต่างๆ รูปแบบ
การบอกขนาดเหล็ก และรูปแบบของการเขียนแบบที่นำมาลงให้ดูนี่ เป็น
สากลนะครับ ฝรั่งมันก็ทำประมาณนี้เหมือนกัน เพราะเราไปลอกเขามานั่น
เอง ฮ่าๆๆๆ ไม่อายเลยครับ ลอก กับเรียนรู้ก็อันเดียวกันนั่นแหละครับ เรา
ลอกวิธีการ แล้วก็มาสร้างงานของเราเอง ก็แค่นั้นเองครับ
        วันนี้ขอราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ ขอให้นอนหลับันดีๆนะครับ พรุ่งนี้ก็
ขอให้รวยๆกันแบบไม่มีเหตุผลกันทุกท่านครับ
 1-3-2566 1:47 น